ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออกแจง กรณีชาวนาโวยถูกโกงปริมาณน้ำมันหลังสั่งซื้อตวงใส่แกลลอนแล้วได้ไม่ตรงตามจำนวนที่สั่งซื้อ เผยยังไม่เคยตรวจพบการโกงมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันมาก่อนในพื้นที่ ระบุได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วคาดจะทราบผลภายในวันพรุ่งนี้
นายสมศักดิ์ พันไพศาล หัวหน้าศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง กล่าวว่า จากกรณีเกิดปัญหาร้องเรียนเรื่องปั๊มน้ำมันจ่ายน้ำมันไม่ตรงตามราคา หรือจำนวนเงินที่มีการสั่งซื้อในปั้มน้ำมันหลายแห่งในจังหวัดฉะเชิงเทราว่าในวันนี้ตลอดทั้งวันได้ส่งเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดเข้าไปตรวจสอบยังปั้มน้ำมันที่ถูกร้องเรียน พร้อมทั้งสุ่มตัวอย่างตรวจปั้มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราอีกหลายอำเภอทั้ง อ.เมืองบางปะกง และพนมสารคาม ซึ่งคาดว่าจะทราบผลได้ในวันนี้ (13 พ.ค.)
โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ตนได้ย้ายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ยังศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออกนั้นยังไม่เคยพบว่าปั้มน้ำมันในภาคตะวันออก รวม 3 จังหวัดในความรับผิดชอบกว่า 1,500 หัวจ่าย มีการโกงปริมาณน้ำมันจากหัวจ่าย เนื่องจากปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่ต้องมีการตรวจสอบรับรองจากศูนย์ชั่งตวงวัดในทุกๆ 2 ปี และมีการซีลตะกั่วรับรองตราครุฑ กันการแก้ไขอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ในส่วนของปั้มน้ำมันเองก็มีเครื่องมือตรวจสอบประจำปั๊มที่ต้องคอยตรวจสอบปริมาณอยู่เป็นประจำ และสำหรับบริษัทของผู้ค้าน้ำมันเองซึ่งเป็นเจ้าของตรายี่ห้อของปั๊มก็จะมีการตรวจสอบทั้งคุณภาพและปริมาณน้ำมันของปั๊มลูกอยู่เป็นประจำอีกส่วนหนึ่ง จึงเป็นไปได้ยากที่ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันจะทำการแก้ไข ดัดแปลงมิเตอร์ เพื่อฉ้อโกงปริมาณน้ำมันกับผู้ซื้อ
สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้นอาจมีความเป็นไปได้ว่า อาจเกี่ยวข้องกับตัวมิเตอร์ที่เก่าหรือชำรุด หรือไม่ก็อาจเป็นไปได้ที่ พนักงานเติมน้ำมันไม่ยอมกดตัวเลขจากการเติมน้ำมันให้กับรถคันแรกเป็นศูนย์ และทำการเปิดจ่ายน้ำมันขายให้ผู้ที่เข้ามาเติมรายต่อไป ซึ่งตรงจุดนี้เจ้าของรถจะต้องคอยตรวจสอบดูตัวเลขเองว่าพนักงานเติมน้ำมันได้กดลบตัวเลขให้เป็นศูนย์ก่อนหรือไม่
ส่วนมาตรฐานของการตรวจวัดน้ำมันนั้น จะคิดค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ที่ 50 ซีซี ต่อปริมาณน้ำมัน 5 ลิตร และค่ามาตรฐานของการตรวจรับรองทุก 2 ปี กำหนดไว้ที่ 100 ซีซี ต่อปริมาณน้ำมัน 5 ลิตร ซึ่งหากมีการดัดแปลงหัวจ่ายจริง ผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษทั้งจำทั้งปรับ และหากเกิดจากพนักงานของปั๊มเป็นผู้ฉ้อโกงเองจะเป็นเรื่องของประมวลกฎหมายอาญา
นายสมศักดิ์ พันไพศาล หัวหน้าศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง กล่าวว่า จากกรณีเกิดปัญหาร้องเรียนเรื่องปั๊มน้ำมันจ่ายน้ำมันไม่ตรงตามราคา หรือจำนวนเงินที่มีการสั่งซื้อในปั้มน้ำมันหลายแห่งในจังหวัดฉะเชิงเทราว่าในวันนี้ตลอดทั้งวันได้ส่งเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดเข้าไปตรวจสอบยังปั้มน้ำมันที่ถูกร้องเรียน พร้อมทั้งสุ่มตัวอย่างตรวจปั้มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราอีกหลายอำเภอทั้ง อ.เมืองบางปะกง และพนมสารคาม ซึ่งคาดว่าจะทราบผลได้ในวันนี้ (13 พ.ค.)
โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ตนได้ย้ายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ยังศูนย์ชั่งตวงวัดภาคตะวันออกนั้นยังไม่เคยพบว่าปั้มน้ำมันในภาคตะวันออก รวม 3 จังหวัดในความรับผิดชอบกว่า 1,500 หัวจ่าย มีการโกงปริมาณน้ำมันจากหัวจ่าย เนื่องจากปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่ต้องมีการตรวจสอบรับรองจากศูนย์ชั่งตวงวัดในทุกๆ 2 ปี และมีการซีลตะกั่วรับรองตราครุฑ กันการแก้ไขอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ในส่วนของปั้มน้ำมันเองก็มีเครื่องมือตรวจสอบประจำปั๊มที่ต้องคอยตรวจสอบปริมาณอยู่เป็นประจำ และสำหรับบริษัทของผู้ค้าน้ำมันเองซึ่งเป็นเจ้าของตรายี่ห้อของปั๊มก็จะมีการตรวจสอบทั้งคุณภาพและปริมาณน้ำมันของปั๊มลูกอยู่เป็นประจำอีกส่วนหนึ่ง จึงเป็นไปได้ยากที่ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันจะทำการแก้ไข ดัดแปลงมิเตอร์ เพื่อฉ้อโกงปริมาณน้ำมันกับผู้ซื้อ
สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้นอาจมีความเป็นไปได้ว่า อาจเกี่ยวข้องกับตัวมิเตอร์ที่เก่าหรือชำรุด หรือไม่ก็อาจเป็นไปได้ที่ พนักงานเติมน้ำมันไม่ยอมกดตัวเลขจากการเติมน้ำมันให้กับรถคันแรกเป็นศูนย์ และทำการเปิดจ่ายน้ำมันขายให้ผู้ที่เข้ามาเติมรายต่อไป ซึ่งตรงจุดนี้เจ้าของรถจะต้องคอยตรวจสอบดูตัวเลขเองว่าพนักงานเติมน้ำมันได้กดลบตัวเลขให้เป็นศูนย์ก่อนหรือไม่
ส่วนมาตรฐานของการตรวจวัดน้ำมันนั้น จะคิดค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ที่ 50 ซีซี ต่อปริมาณน้ำมัน 5 ลิตร และค่ามาตรฐานของการตรวจรับรองทุก 2 ปี กำหนดไว้ที่ 100 ซีซี ต่อปริมาณน้ำมัน 5 ลิตร ซึ่งหากมีการดัดแปลงหัวจ่ายจริง ผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษทั้งจำทั้งปรับ และหากเกิดจากพนักงานของปั๊มเป็นผู้ฉ้อโกงเองจะเป็นเรื่องของประมวลกฎหมายอาญา