พิจิตร – จังหวัดพิจิตรร่วมกับพาณิชย์จังหวัดฯ และการค้าภายใน ออกตรวจโรงสีหลายแห่งไม่ให้ฉวยโอกาสกดราคารับซื้อข้าวเปลือกชาวนา หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน
วันนี้(12 พฤษภาคม 2551)นายสุเมธ ชัยเลิศวนิชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดพิจิตร -การค้าภายในฯ ได้ออกตรวจการซื้อขายข้าวเปลือกเกี่ยวสดของเกษตรกรชาวนาตามโรงสีต่างๆหลายแห่งของจังหวัดพิจิตร เพื่อกำชับไม่ให้ผู้ประกอบการโรงสีที่รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาฉวยโอกาสเอาเปรียบ กดราคารับซื้อข้าวจากชาวนาในระยะที่ข้าวมีความชื้นสูง เนื่องจากมรสุมพัดผ่านประเทศไทย จนมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันอีกทั้งได้รับเรื่องร้องเรียนโรงสีกดราคาข้าวว่า ไม่ยอมรับซื้อข้าวหรือรับซื้อต่ำกว่าความเป็นจริง
นายสุเมธ ชัยเลิศวนิชกุล กล่าวว่าทางจังหวัดพิจิตรได้จัดชุดเฉพาะกิจ ออกสุ่มตรวจความชื้นและชั่งตวงวัดตามโรงสีต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการโรงสี หรือท่าข้าวต่างๆเอาเปรียบชาวนา ในช่วงที่มรสุมเข้าปกคลุมพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงสีใช้เป็นข้ออ้างไม่รับซื้อข้าว โดยอ้างเรื่องความชื้นสูง เพื่อทำการกดราคาการขายของชาวนา
ผลการตรวจยังไม่พบว่ามีโรงสีใดทำการกดราคาข้าวของชาวนาแต่อย่างใด โดยวันนี้โรงสีต่างๆ หันเริ่มรับซื้อข้าวเปลือกเจ้าเกี่ยวสดจากชาวนาแล้ว ในราคาตันละ 10,000 – 11,000 บาท และข้าวเปลือกแห้ง 100 เปอร์เซนต์อยู่ที่ตันละ 13,000 บาท
สำหรับสาเหตุที่โรงสีกว่าครึ่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร หยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าข้าวมีราคาสูงขึ้นผิดปกติ และกระแสความอ่อนไหวทางการเมือง ที่จริงเกิดจากโรงสีหลายแห่งในจังหวัดพิจิตรเกิดการขาดสภาพคล่อง เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ อีกทั้งต้องใช้เงินทุนในการซื้อข้าวที่สูงจากเดิมที่เป็นอยู่ ทางธนาคารปล่อยเงินกู้หมุนเวียนล่าช้าและให้วงเงินที่จำกัด ไม่ใช่ว่าโรงสีจะหยุดรับซื้อด้วยสาเหตุ ที่อยากเอาเปรียบชาวนาหรือเล่นแง่กับรัฐบาล
ส่วนชาวนาเองก็มีการติดตามข่าวสารทางราชการที่คาดว่าข้าวจะขึ้นราคา จึงชะลอการเกี่ยวด้วยเช่นกัน แต่สถานการณ์วันนี้เริ่มเข้าสู่ปกติแล้ว จึงเริ่มมีการซื้อขายกันอย่างคึกคักมากขึ้น
วันนี้(12 พฤษภาคม 2551)นายสุเมธ ชัยเลิศวนิชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดพิจิตร -การค้าภายในฯ ได้ออกตรวจการซื้อขายข้าวเปลือกเกี่ยวสดของเกษตรกรชาวนาตามโรงสีต่างๆหลายแห่งของจังหวัดพิจิตร เพื่อกำชับไม่ให้ผู้ประกอบการโรงสีที่รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาฉวยโอกาสเอาเปรียบ กดราคารับซื้อข้าวจากชาวนาในระยะที่ข้าวมีความชื้นสูง เนื่องจากมรสุมพัดผ่านประเทศไทย จนมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันอีกทั้งได้รับเรื่องร้องเรียนโรงสีกดราคาข้าวว่า ไม่ยอมรับซื้อข้าวหรือรับซื้อต่ำกว่าความเป็นจริง
นายสุเมธ ชัยเลิศวนิชกุล กล่าวว่าทางจังหวัดพิจิตรได้จัดชุดเฉพาะกิจ ออกสุ่มตรวจความชื้นและชั่งตวงวัดตามโรงสีต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการโรงสี หรือท่าข้าวต่างๆเอาเปรียบชาวนา ในช่วงที่มรสุมเข้าปกคลุมพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงสีใช้เป็นข้ออ้างไม่รับซื้อข้าว โดยอ้างเรื่องความชื้นสูง เพื่อทำการกดราคาการขายของชาวนา
ผลการตรวจยังไม่พบว่ามีโรงสีใดทำการกดราคาข้าวของชาวนาแต่อย่างใด โดยวันนี้โรงสีต่างๆ หันเริ่มรับซื้อข้าวเปลือกเจ้าเกี่ยวสดจากชาวนาแล้ว ในราคาตันละ 10,000 – 11,000 บาท และข้าวเปลือกแห้ง 100 เปอร์เซนต์อยู่ที่ตันละ 13,000 บาท
สำหรับสาเหตุที่โรงสีกว่าครึ่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร หยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าข้าวมีราคาสูงขึ้นผิดปกติ และกระแสความอ่อนไหวทางการเมือง ที่จริงเกิดจากโรงสีหลายแห่งในจังหวัดพิจิตรเกิดการขาดสภาพคล่อง เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ อีกทั้งต้องใช้เงินทุนในการซื้อข้าวที่สูงจากเดิมที่เป็นอยู่ ทางธนาคารปล่อยเงินกู้หมุนเวียนล่าช้าและให้วงเงินที่จำกัด ไม่ใช่ว่าโรงสีจะหยุดรับซื้อด้วยสาเหตุ ที่อยากเอาเปรียบชาวนาหรือเล่นแง่กับรัฐบาล
ส่วนชาวนาเองก็มีการติดตามข่าวสารทางราชการที่คาดว่าข้าวจะขึ้นราคา จึงชะลอการเกี่ยวด้วยเช่นกัน แต่สถานการณ์วันนี้เริ่มเข้าสู่ปกติแล้ว จึงเริ่มมีการซื้อขายกันอย่างคึกคักมากขึ้น
