กาฬสินธุ์ - ชาวนาเมืองน้ำดำยังคงต้องทนกับปัญหาถูกเอารัดเอาเปรียบของกลุ่มโรงสีและตลาดกลาง ล่าสุดราคารับซื้อข้าวเปลือกเหนียวเหลืออยู่ เพียงตันละ 5,800 บาทเท่านั้น
จากการติดตามปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ถึงแม้ชาวนาจะรวมตัวกันเรียกร้องเพื่อให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหา เนื่องจากปัญหาการเอารัดเอาเปรียบ ในด้านราคาของโรงสีและตลาดกลาง ซึ่งชาวนากาฬสินธุ์ ถูกกดราคาข้าวเปลือกเหลือเพียงตันละ 6,000 บาท ซึ่งเป็นข้าวเปลือก กข.หรือข้าวเหนียว ทั้งที่รัฐบาลได้ประกาศให้ราคารับซื้อปีนี้สูงถึงตันละ 12,000 บาท ขณะที่ข้าวเปลือกหอมะลิก็มีราคาสูงถึงตันละ 17,000 บาท แต่เฉลี่ยจะมีการรับซื้อเพียงตันละ 8,500 บาทเท่านั้น
ล่าสุดที่ตลาดกลางข้าวเปลือกและพืชไร่อำเภอยางตลาด ได้เริ่มเปิดให้ชาวนานำผลผลิตข้าวเข้าไปจำหน่าย โดยเฉพาะข้าวเหนียวแต่ในด้านราคาที่รับซื้อขณะนี้ก็ยังไม่ดีขึ้น อีกทั้งราคาการรับซื้อก็เหลืออยู่เพียงตันละ 5,800 บาท
นายอภิเดช ธรรมโนจิตร ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เหตุผลว่าปัญหาราคาที่ตกต่ำก็เพราะข้าวในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีความชื้นสูง ที่จำเป็นจะต้องนำไปอบก่อนที่จะนำไปสีเป็นข้าวสาร ซึ่งในขณะนี้จึงสามารถรับซื้อได้เพียงราคาตันละ 5,800 – 6,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งจากผลที่ราคาตกต่ำก็เนื่องจากมีกลุ่มพ่อค้าคนกลางเข้าไปตัดราคาข้าวเปลือกของเกษตรกร ในขณะนี้เพื่อเป็นการป้องกันตลาดกลางข้าวจึงสามารถเปิดรับซื้อได้เพียงวันละ 2,000 ตัน ที่จะไม่อนุญาตให้ชาวนาที่เคยนำข้าวเข้ามาขายแล้วขายข้าวอีก
ขณะที่แนวทางการเข้าร้องเรียนต่อรัฐบาลนั้น นายสำรอง โพธิ์ซก ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตยคนอีสานแจ้งว่า ในสัปดาห์หน้า นอกจากจะมีการประชุมกลุ่มชาวนาภาคอีสานแล้ว ก็จะเข้าไปติดตามให้นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ขออนุญาตให้กระทรวงพาณิชย์เปิดการค้าเสรีให้กับชาวนากาฬสินธุ์ เพื่อให้มีการแข่งขันกันในด้านราคา และพร้อมที่จะสนับสนุนให้มีการเข้ามาซื้อขายข้าวเปลือกของโรงสีนอกพื้นที่ โดยเฉพาะแนวทางของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะเข้าไปซื้อข้าวให้กับเกษตรกร จึงต้องการให้ รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาด้วย
