ทุนชายแดนตาก-เชียงรายเร่งระดมเงินบริจาคช่วยเหยื่อ “นาร์กีส”

เชียงราย/ตาก - รัฐและองค์กรภาคเอกชน 2 หัวเมืองชายแดนภาคเหนือ ระดมเงินบริจาคช่วยเหยื่อ “นาร์กีส” ในพม่า จนมีคนเสียชีวิตหลายหมื่นคน ล่าสุด ผู้ว่าฯตาก นำทีมส่งมอบตัวแทนพม่าที่เมียวดี บ่ายสามวันนี้ ขณะที่หอฯเชียงราย ประสานผ่านหอฯท่าขี้เหล็ก แล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเกิดเหตุพายุไซโคลนนาร์กีส ถล่มกรุงย่างกุ้ง และใกล้เคียงของสหภาพพม่า ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 2 พ.ค.2551 ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน (ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิต-ผู้สูญหาย ยังเพิ่มขึ้นตลอดเวลา) และประชาชนพม่าต้องไร้บ้านเรือนที่อยู่อาศัยนับล้านคนนั้น ล่าสุด องค์กรภาครัฐ/เอกชน ใน 2 หัวเมืองชายแดนของภาคเหนือ ที่มีการติดต่อค้าขายกับพม่ามานาน ได้เร่งระดมเงินบริจาค เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ประเทศพม่าอีกทางหนึ่ง

โดยที่จังหวัดตาก กลุ่มทุนท้องถิ่นในพื้นที่ อ.แม่สอด ตรงข้ามจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า ได้ประชุมหารือร่วมกันตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.2551 เพื่อระดมเงินบริจาค จนสามารถระดมเงินได้แล้วกว่า 1.5 ล้านบาท กำหนดที่จะนำไปมอบให้ตัวแทนรัฐบาลพม่าที่เมียวดี ในเวลาประมาณ 15.00 น.วันนี้ (7 พ.ค.) โดยมี นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในการส่งมอบ

ส่วนที่จังหวัดเชียงราย ที่ถือเป็นเมืองคู่ค้ากับพม่าอีกจังหวัดหนึ่ง มีการติดต่อค้าขายผ่านทางชายแดน อ.แม่สาย-อ.เชียงแสน จ.เชียงราย กับท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้ หอการค้า จ.เชียงราย ได้หารือกันในหมู่สมาชิกและประสานเบื้องต้นกับ นายเทอ่อง รองประธานหอการค้า จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้วว่า ทางหอฯ มีความประสงค์ที่จะขอรับบริจาคเงิน เพื่อนำไปช่วยเหลือ และบรรเทาทุกข์แก่ชาวพม่า โดยรับบริจาคเป็นเงินสดตั้งแต่วันนี้ เพราะง่ายต่อการนำไปช่วยเหลือ และส่งไปยังช่วยยังกรุงย่างกุ้งได้

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ติดต่อกับ จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพพม่า แต่ไกลจากจุดที่มีพายุถล่มมากพอสมควร จึงไม่มีผลกระทบด้านพายุ ส่วนทางการค้าก็ยังไม่มี แต่ก็มีการจับตาความเคลื่อนไหวในทุกด้าน

ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา นักธุรกิจไทย ที่ทำธุรกิจทัวร์ และดิวตี้ฟรี ใน อ.แม่สาย-จ.ท่าขี้เหล็ก กล่าวว่า หลังจากมีเหตุพายุ การค้าขายที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ยังปกติ เนื่องจากจุดเกิดพายุไกลจากท่าขี้เหล็กมาก ซึ่งเป็นการดีที่จะมีการช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากครั้งนี้ถือว่ามีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่ง หลังจากเคยเกิดเหตุคลื่นสึนามิเมื่อหลายปีก่อน