เชียงใหม่ - ตำรวจจับกุมเจ้าของร้านเต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสอง ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ลักลอบจำหน่ายยาบ้า พร้อมขยายผลยึดทรัพย์อีก 5 ล้านบาท
นายสุทัศน์ ปันยวง อายุ 35 ปี พร้อม นางนาแฮ จะวะ เครือข่ายค้ายาเสพติด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 80 เม็ด ขณะนำมาขายให้กับสายของตำรวจบริเวณสี่แยกบ่อสร้าง ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
จากนั้นขยายผลเข้ายึดทรัพย์สิน ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวมอีก 10 คัน ของนายสุทัศน์ ที่เปิดเป็นร้านจำหน่ายรถยนต์มือสองบังหน้า บริเวณบ้านสันป่าค่า ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด
พลตำรวจตรี ราเชนทร์ รื่นกมล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า ผู้ต้องหาเป็นเอเยนต์ จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ ในพื้นที่อำเภอสันกำแพง โดยซื้อยาบ้ามาจากแนวชายแดน บ้านภรรยาซึ่งเป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ ด้านอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ นำมาขายให้กับเอเยนต์รายย่อย จำหน่ายต่อให้กับกลุ่มวัยรุ่น จากนั้นจะนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปซื้อรถยนต์มือสอง มาตั้งขายในร้าน เพื่ออำพรางว่าทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า ขณะนี้ยาบ้าเริ่มกลับมาแพร่ระบาดอีก ซึ่งผลการจับกุมยาบ้าในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งวัดได้จากการจับกุมผู้ค้าแต่ละราย มียาบ้าตั้งแต่หลักพันเม็ด ไปจนถึงหลายแสนเม็ด ซึ่งจะต้องเร่งรัดทุกพื้นที่ในการจับกุม
นายสุทัศน์ ปันยวง อายุ 35 ปี พร้อม นางนาแฮ จะวะ เครือข่ายค้ายาเสพติด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 80 เม็ด ขณะนำมาขายให้กับสายของตำรวจบริเวณสี่แยกบ่อสร้าง ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
จากนั้นขยายผลเข้ายึดทรัพย์สิน ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวมอีก 10 คัน ของนายสุทัศน์ ที่เปิดเป็นร้านจำหน่ายรถยนต์มือสองบังหน้า บริเวณบ้านสันป่าค่า ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด
พลตำรวจตรี ราเชนทร์ รื่นกมล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า ผู้ต้องหาเป็นเอเยนต์ จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ ในพื้นที่อำเภอสันกำแพง โดยซื้อยาบ้ามาจากแนวชายแดน บ้านภรรยาซึ่งเป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ ด้านอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ นำมาขายให้กับเอเยนต์รายย่อย จำหน่ายต่อให้กับกลุ่มวัยรุ่น จากนั้นจะนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปซื้อรถยนต์มือสอง มาตั้งขายในร้าน เพื่ออำพรางว่าทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า ขณะนี้ยาบ้าเริ่มกลับมาแพร่ระบาดอีก ซึ่งผลการจับกุมยาบ้าในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งวัดได้จากการจับกุมผู้ค้าแต่ละราย มียาบ้าตั้งแต่หลักพันเม็ด ไปจนถึงหลายแสนเม็ด ซึ่งจะต้องเร่งรัดทุกพื้นที่ในการจับกุม