เชียงราย – เด็ก “พลังแม้ว” ภาคเหนือยันต้องคงสัดส่วนตัวแทนภาคเหนือ หลัง “ทั่นยุทธ” ไขก๊อก เชื่อปัญหาเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนฯเคลียร์ได้ เผยพรุ่งนี้แกนนำ 5 พรรคร่วมหารือแก้ รธน.50 พร้อมออกปากอยากเชิญพันธมิตรฯร่วมเสนอแนะ
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคพลังประชาชน ในฐานะกรรมการและเลขานุการวิปรัฐบาล ได้พบกับประชาชนที่มาร้องทุกข์ ณ สำนักงาน ถนนสันโค้งหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย และกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันตนเป็น ส.ส.เขต 1 แต่ดูแลพื้นที่กว้างกว่าเดิม เพราะ ส.ส.เขต นี้เพิ่มเป็น 3 คน ซึ่งได้มีการตกลงกันกับเพื่อน ส.ส.ว่าให้ดูแลพื้นที่เดิมไปก่อน เพราะอนาคตจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปใช้ในปี 2540 และเขตเลือกตั้งจะเป็นแบบเดิม
ส่วนกรณีที่จะมีการเสนอรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแทนนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ลาออกไปนั้นนายสามารถ กล่าวว่า ที่จริงแล้วตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร หากจะเทียบเป็นสัดส่วนนายยงยุทธมาจากภาคเหนือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 มาจากภาคอีสาน และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 มาจากภาคกลาง
ดังนั้น เมื่อนายยงยุทธลาออกก็น่าจะมีบุคคลจากกลุ่มภาคเหนือเข้าไปดำรงแหน่งแทน ซึ่งที่ผ่านมามีการไปทาบทามรัฐมนตรีหลายคนของพรรคพลังประชาชน เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม แต่ได้รับการปฏิเสธเพราะบอกว่าไม่ถนัดงานด้านนี้
ดังนั้น อาจเป็นได้ว่าอาจจะมีผู้ที่มีความเหมาะสมบางคนในภาคเหนือขึ้นมาเป็นรองประธานสภาคนที่สอง โดยขยับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 มาเป็นประธานสภาและขยับ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 มาเป็นรองประธานคนที่ 1 ส่วนแกนนำพรรคทางภาคอีสานจะเสนอชื่อนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา ก็เป็นไปได้ได้ทั้งนั้น
ส่วนการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 7 พ.ค.นี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะเชิญแกนนำในพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรคมาหารือกัน ในเรื่องร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หากเห็นพ้องต้องกันก็จะเอาร่างที่แก้ไขแล้ว เข้าชื่อกันเสนอต่อรัฐสภา
นายสามารถ ระบุว่า พรรคเคยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งไว้ว่าจะนำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาให้ประชาชน โดยจะคงหมวด 1 หมวด 2 ของ รัฐธรรมนูญปี 2550 ไว้ ส่วนหมวดอื่นก็จะนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ หากจะแก้ไขเพิ่มเติมให้เหมาะสมกว่าเดิมก็ให้ไปแก้ไขในระดับกรรมาธิการ หรือชั้นการแปรญัตติ
หากการแก้ไขแล้วรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องทำประชามติ หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วต้องยุบสภา แต่เราจะมีบทเฉพาะกาลว่าส่วนไหนใช้ได้เลยหรือ หากส่วนไหนยังใช้ไม่ได้เพราะมาจากรัฐธรรมนูญ 2550 ก็ทำบทเฉพาะกาล เมื่อวันหนึ่งมีการเลือกตั้งใหม่ ก็มีการเข้าสู่การใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ที่แก้ไขเพิ่มเติมจาก ปี 2550 และตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องยุบสภาหลังแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ เพราะไม่ใช่ประเด็น
“หากมีการพูดคุยกันด้วยเหตุผลกับทุกฝ่าย เช่น กลุ่มพันธมิตรฯ อยากเสนออะไรในชั้นกรรมาธิการ ชั้นแปรญัตติก็ให้มาร่วมด้วย ก็อาจได้รัฐธรรมนูญที่ดีกว่าปี 2540 ก็เป็นได้”
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคพลังประชาชน ในฐานะกรรมการและเลขานุการวิปรัฐบาล ได้พบกับประชาชนที่มาร้องทุกข์ ณ สำนักงาน ถนนสันโค้งหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย และกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันตนเป็น ส.ส.เขต 1 แต่ดูแลพื้นที่กว้างกว่าเดิม เพราะ ส.ส.เขต นี้เพิ่มเป็น 3 คน ซึ่งได้มีการตกลงกันกับเพื่อน ส.ส.ว่าให้ดูแลพื้นที่เดิมไปก่อน เพราะอนาคตจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปใช้ในปี 2540 และเขตเลือกตั้งจะเป็นแบบเดิม
ส่วนกรณีที่จะมีการเสนอรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแทนนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ลาออกไปนั้นนายสามารถ กล่าวว่า ที่จริงแล้วตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร หากจะเทียบเป็นสัดส่วนนายยงยุทธมาจากภาคเหนือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 มาจากภาคอีสาน และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 มาจากภาคกลาง
ดังนั้น เมื่อนายยงยุทธลาออกก็น่าจะมีบุคคลจากกลุ่มภาคเหนือเข้าไปดำรงแหน่งแทน ซึ่งที่ผ่านมามีการไปทาบทามรัฐมนตรีหลายคนของพรรคพลังประชาชน เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม แต่ได้รับการปฏิเสธเพราะบอกว่าไม่ถนัดงานด้านนี้
ดังนั้น อาจเป็นได้ว่าอาจจะมีผู้ที่มีความเหมาะสมบางคนในภาคเหนือขึ้นมาเป็นรองประธานสภาคนที่สอง โดยขยับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 มาเป็นประธานสภาและขยับ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 มาเป็นรองประธานคนที่ 1 ส่วนแกนนำพรรคทางภาคอีสานจะเสนอชื่อนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา ก็เป็นไปได้ได้ทั้งนั้น
ส่วนการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 7 พ.ค.นี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะเชิญแกนนำในพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรคมาหารือกัน ในเรื่องร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หากเห็นพ้องต้องกันก็จะเอาร่างที่แก้ไขแล้ว เข้าชื่อกันเสนอต่อรัฐสภา
นายสามารถ ระบุว่า พรรคเคยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งไว้ว่าจะนำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาให้ประชาชน โดยจะคงหมวด 1 หมวด 2 ของ รัฐธรรมนูญปี 2550 ไว้ ส่วนหมวดอื่นก็จะนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ หากจะแก้ไขเพิ่มเติมให้เหมาะสมกว่าเดิมก็ให้ไปแก้ไขในระดับกรรมาธิการ หรือชั้นการแปรญัตติ
หากการแก้ไขแล้วรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องทำประชามติ หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วต้องยุบสภา แต่เราจะมีบทเฉพาะกาลว่าส่วนไหนใช้ได้เลยหรือ หากส่วนไหนยังใช้ไม่ได้เพราะมาจากรัฐธรรมนูญ 2550 ก็ทำบทเฉพาะกาล เมื่อวันหนึ่งมีการเลือกตั้งใหม่ ก็มีการเข้าสู่การใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ที่แก้ไขเพิ่มเติมจาก ปี 2550 และตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องยุบสภาหลังแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ เพราะไม่ใช่ประเด็น
“หากมีการพูดคุยกันด้วยเหตุผลกับทุกฝ่าย เช่น กลุ่มพันธมิตรฯ อยากเสนออะไรในชั้นกรรมาธิการ ชั้นแปรญัตติก็ให้มาร่วมด้วย ก็อาจได้รัฐธรรมนูญที่ดีกว่าปี 2540 ก็เป็นได้”
