ลำปาง - ลูกช้างเพศผู้อายุประมาณ 15 วัน จากเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวจังหวัดระนอง ซึ่งถูกแม่ทิ้งและมารับการดูแลรักษาพยาบาลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.อ.ป.เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2551 ได้ล้มลงแล้วเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2551
ตามที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้การช่วยเหลือลูกช้างอายุประมาณ 15 วัน ที่พลัดหลงจากแม่บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จ.ระนอง และไม่มีวี่แววว่าแม่ช้างจะกลับมารับลูกช้าง เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯจึงได้นำลูกช้างออกจากป่าเพื่อรักษาลูกช้างให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไป และเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2551 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ส่งตัวลูกช้างเชือกนี้เข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
โดยทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.อ.ป.ก็ได้ให้ช้างชื่อพังสิงขรเป็นช้างเพศเมีย อายุ 29 ปี ที่ประวัติเคยตกลูกมาแล้ว 2 เชือก และปัจจุบันกำลังตั้งท้องอ่อนๆ ประมาณ 7 เดือน เป็นแม่ช้างรับ และพังสิงขร ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นแม่อย่างดีมากโดยแสดงอาการหวงลูก เมื่อมีคนพยายามที่จะเข้าใกล้ แม้จะไม่มีน้ำนมไหลออกมาก็ตาม โดยทางสัตวแพทย์ลงความเห็นว่าจากทฤษฎี ที่ว่าหากแม่ช้างรับเป็นลูกแล้ว ฮอร์โมนในร่างกายจะสั่งให้แม่ช้างหลั่งน้ำนมออกมา พร้อมกับได้ชงนมคนที่ใช้เลี้ยงทารกให้ลูกช้างกินควบคู่กันไป และลูกช้างก็กินได้ดี ไม่มีสภาวะท้องเสีย สามารถกินได้ถึงวันละ 5-6
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 ลูกช้างมีอาการปอดบวม หายใจลำบาก เนื่องจากว่าตลอดช่วงที่ผ่านมา อากาศเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก และมีฝนตกตลอดเวลา แต่คงดูดนมได้บ้าง ทางสัตวแพทย์ยังได้ ให้ยาปฏิชีวนะควบคุมการติดเชื้อ และยาลดน้ำมูก
วันที่ 2 พฤษภาคม 2551 ลูกช้างมีอาการซึม หายใจแรงและถี่ นอนนานมาก สัตวแพทย์ได้ให้ยาปฎิชีนะ และยาลดน้ำมูกตลอด และวันที่ 3 พฤษภาคมฝนได้ตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน ทางโรงพยาบาลช้างได้ก่อไฟ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือน ช้างยังคงดูดนมได้ตามปกติ และแม่ช้างเริ่มมีนมบ้างเล็กน้อย แต่ยังไม่เพียงพอ ช้างนอนค่อนข้างบ่อยและนาน ยังคงให้ยาปฎิชีวนะและยาลดน้ำมูกอยู่ เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 น ช้างแสดงอาการเหนื่อยมาก หอบ หายใจแรง และนอนตลอด ไม่กินนม สัตวแพทย์ได้พิจารณาให้น้ำเกลือและสารอาหารทางเส้นเลือด จนกระทั่ง เวลา 16.00 น.ช้างได้เสียชีวิตอย่างสงบ
นายสัตวแพทย์สิทธิเดช มหาสาวังกุล หัวหน้าฝ่ายโรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.อ.ป.ได้รายงานผลการผ่าชันสูตรซากของลูกช้างแล้ว สรุปได้ว่า สาเหตุของการเสียชีวิต ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจาก ปอดบวม และติดเชื้อ
จากการผ่าซากพบน้ำในช่องอก ช่องท้อง หลอดลม พบของเหลวข้นคล้ายเสลด จำนวนมาก ปอด มีเลือดคั่ง เป็นจุดๆ และมีของเหลวข้นเหมือนกับที่พบในหลอดลมภายในปอด ม้าม และลำไส้ พบจุดเลือดออก กล้ามหัวใจด้านล่างซ้ายค่อนข้างโตผิดปกติ ตับมีอาการบวมน้ำ ไตมีจุดเลือดออก และสีเหลืองซีดกว่าปกติ คล้ายลักษณะไตวาย
ทั้งนี้ ได้ทำการส่งตัวอย่างชิ้นเนื้ออวัยวะภายในต่างๆ ส่งตรวจวินิจฉัย เพื่อยืนยันผลทางห้องแล็บ อีกครั้ง ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนบน และคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่