ศูนย์ข่าวศรีราชา - ร้านข้าวหลามหนองมนพร้อมใจปรับราคาหลังน้ำตาลแพง แม่ค้าโอดรัฐบาล “สมัคร” แก้ไม่ได้ ปล่อยให้ราคาสินค้าพุ่ง เดือดร้อนคนทำมาหากิน
จากกรณีที่ราคาน้ำตาลทรายปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 5 บาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และต้องปรับราคาสินค้าของตน เพื่อรักษาฐานลูกค้าของตน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านค้าน้ำตาลทรายหลายรายปรับราคาน้ำตาลทรายขึ้นก่อนจะมีการปรับราคาขึ้น และบางรายก็ปรับราคาสูงขึ้นมากกว่า 5 บาท
เจ้าของร้านข้าวหลามเผาฟืน แม่เฮียง เผยว่า ตนขายข้าวหลามมากว่า 40 ปี ปกติวันหนึ่งจะขายได้ประมาณ 200-400 กระบอก และใช้น้ำตาลทราย 4-5 กิโลกรัมต่อ 100 กระบอก เนื่องจากน้ำตาลไม่ได้เป็นส่วนผสมหลักจึงไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณมาก เหมือนข้าวเหนียวและกะทิ ดังนั้น การที่ราคาน้ำตาลทรายขึ้นนั้นจึงไม่กระทบเท่าไร แต่ตนต้องปรับราคาขายต่อกระบอกขึ้น 5 บาท เพื่อให้มีกำไรบ้าง เพราะราคาส่วนผสมอื่นขึ้นมากตามราคาน้ำมัน แต่ตนก็ใช้การอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจแทนการไปลดปริมาณข้าวหลามลง ลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้าใจ
นอกจากนี้ ร้านค้าข้าวหลามในตลาดต่างก็ขึ้นราคากันหมด เพราะรับภาระไม่ไหว อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องราคาสินค้า อย่าให้มันแพงจนเกินไป หากค่าใช้จ่ายมันเพิ่มขึ้นคนก็จะไม่ออกมาเที่ยว แล้วแม่ค้าจะอยู่อย่างไร ส่งผลกระทบไปหมดโดยเฉพาะคนทำมาหากิน
นายสมชัย พงษ์สวัสดิ์ อาชีพผลิตข้าวหลามภายในตำบลแสนสุข จ.ชลบุรี กล่าวว่า ตนทำข้าวหลามขายมา 30 กว่าปีแล้ว โดยทำขายเอง ไม่ได้ส่งตามร้านค้า ปกติการทำข้าวหลามนั้นจะใช้น้ำตาลทรายวันละประมาณ 10 กิโลกรัมขึ้นไป แต่เมื่อน้ำตาลทรายมีราคาเพิ่มขึ้นตนก็ไม่สามารถลดปริมาณในการใช้น้ำตาลลงได้ ทั้งนี้เพราะหากลดลง รสชาติจะเปลี่ยนไป วิธีแก้ปัญหาก็คือต้องยอมรับภาระค่าใช้จ่ายของราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งข้าวเหนียว น้ำตาล และกะทิ เพื่อรักษาลูกค้าไว้ ราคาข้าวหลามต่อกระบอกก็ยังคงที่ ไม่ได้ขึ้นราคาแต่อย่างใด
โดยส่วนตัวแล้วตนคิดว่ารัฐบาลสมัครคงแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ เพราะราคาสินค้าที่จำเป็นนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่สินค้าที่ไม่จำเป็นกลับไม่ขึ้นราคา และตอนนี้ต้องรอดูเพียงว่าอะไรจะเพิ่มราคาขึ้นอีก หากจะให้ตนเลิกทำข้าวหลามไปประกอบอาชีพอื่น ตนคงหางานทำลำบาก เพราะอายุก็มากขึ้น รัฐบาลควรที่จะช่วยเหลือคนจนบ้าง ไม่ใช่ชิมไปด่าไปอย่างเดียว