เชียงราย - เลขาฯวิปรัฐบาล ยันไม่มีรอยร้าวแย่งตำแหน่งประธานรัฐสภา ชี้ การคัดสรรบุคคลของพรรคพลังประชาชนมาปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรแทน “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ไม่อยากให้มองว่าจะต้องเป็นโควตาในการคัดเลือกตั้ง ส.ส.ระบบสัดส่วนจากภาคไหน ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ใต้ อีสาน
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคพลังประชาชน ในฐานะกรรมการและเลขานุการวิปรัฐบาล เปิดเผยกรณีการคัดสรรบุคคลของพรรคพลังประชาชน มาปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร แทน นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ได้ลาออกจากตำแหน่ง ว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้ทุกฝ่าย มองว่า จะต้องเป็นโควตาในการคัดเลือกตั้ง ส.ส.ระบบสัดส่วนจากภาคไหนเลย ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ใต้ อีสาน เพราะไม่อยากให้เกิดความแตกแยก อยากให้ทุกส่วนของพรรค มีความสามัคคีเพื่อความเข้มแข็งภายในให้มาก
นายสามารถ กล่าวว่า ทั้งนี้ ในส่วนของ จ.เชียงราย ยืนยันไม่มีการส่งรายชื่อผู้ใดเข้าประกวดชิงตำแหน่งประธานรัฐสภาแน่นอน เพราะไม่อยากให้ใครมองว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจจาก นายยงยุทธ หรือต้องการให้ตำแหน่งอยู่กับคนพวกพ้องคนเชียงรายเท่านั้น ตำแหน่งจะเป็นใครก็ได้ ขอให้มีความรู้ มีความเหมาะสม เมื่อเข้าไปแล้ว ทำให้ทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายค้าน เห็นแล้วเกิดการยอมรับได้ ให้สังคมยอมรับได้เท่านั้นก็พอ
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตำแหน่งประธานรัฐสภา มีความสำคัญ และที่ผ่านมา เราต้องยอมรับในตัว นายยงยุทธ ที่ได้เสียสละ ทำเพื่อพรรคมามาก ในช่วงชีวิตที่ถูกมรสุมการเมืองหลังช่วงปฏิวัติ นายยงยุทธ ได้รับความบอบช้ำและเจ็บปวดมาก เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลาย ประกอบกับนายยงยุทธ เป็นผู้มีความรู้มีความสามารถ จึงได้อาสาเข้ามาทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้
“จุดนี้ต้องยอมรับในสปิริตของนายยงยุทธ ที่ไม่ยึดติดในตำแหน่ง เมื่อมีการพาดพิงถึง ก็ได้แสดงความสง่างามลาออกจากตำแหน่ง เปิดโอกาสให้คนอื่น เข้ามาทำหน้าที่แทน อยากให้ลูกพรรค ยึดเอาเป็นแบบอย่าง”
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคพลังประชาชน ในฐานะกรรมการและเลขานุการวิปรัฐบาล เปิดเผยกรณีการคัดสรรบุคคลของพรรคพลังประชาชน มาปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร แทน นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ได้ลาออกจากตำแหน่ง ว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้ทุกฝ่าย มองว่า จะต้องเป็นโควตาในการคัดเลือกตั้ง ส.ส.ระบบสัดส่วนจากภาคไหนเลย ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ใต้ อีสาน เพราะไม่อยากให้เกิดความแตกแยก อยากให้ทุกส่วนของพรรค มีความสามัคคีเพื่อความเข้มแข็งภายในให้มาก
นายสามารถ กล่าวว่า ทั้งนี้ ในส่วนของ จ.เชียงราย ยืนยันไม่มีการส่งรายชื่อผู้ใดเข้าประกวดชิงตำแหน่งประธานรัฐสภาแน่นอน เพราะไม่อยากให้ใครมองว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจจาก นายยงยุทธ หรือต้องการให้ตำแหน่งอยู่กับคนพวกพ้องคนเชียงรายเท่านั้น ตำแหน่งจะเป็นใครก็ได้ ขอให้มีความรู้ มีความเหมาะสม เมื่อเข้าไปแล้ว ทำให้ทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายค้าน เห็นแล้วเกิดการยอมรับได้ ให้สังคมยอมรับได้เท่านั้นก็พอ
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตำแหน่งประธานรัฐสภา มีความสำคัญ และที่ผ่านมา เราต้องยอมรับในตัว นายยงยุทธ ที่ได้เสียสละ ทำเพื่อพรรคมามาก ในช่วงชีวิตที่ถูกมรสุมการเมืองหลังช่วงปฏิวัติ นายยงยุทธ ได้รับความบอบช้ำและเจ็บปวดมาก เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลาย ประกอบกับนายยงยุทธ เป็นผู้มีความรู้มีความสามารถ จึงได้อาสาเข้ามาทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้
“จุดนี้ต้องยอมรับในสปิริตของนายยงยุทธ ที่ไม่ยึดติดในตำแหน่ง เมื่อมีการพาดพิงถึง ก็ได้แสดงความสง่างามลาออกจากตำแหน่ง เปิดโอกาสให้คนอื่น เข้ามาทำหน้าที่แทน อยากให้ลูกพรรค ยึดเอาเป็นแบบอย่าง”