ไมเคิล สไลมาน ผู้บัญชาการทหารบกของเลบานอน วัย 59 ปี เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่เมื่อวันอาทิตย์ (26) พร้อมเรียกร้องให้ชาวเลบานอนหันมาจับกันสร้างความเป็นเอกภาพในชาติ
สไลมานในชุดสูทสีดำและเนกไทสีเทาซึ่งยืนอยู่ต่อหน้าสมาชิกสภานิติบัญญัติของเลบานอนหลังร่วมในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ได้ขอให้ทุกคนยืนไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตที่ไม่ยอมละทิ้งอุดมการณ์ของตัวเอง
ผู้นำคนใหม่ของเลบานอนยังได้ให้คำมั่นว่าจะปกป้องรัฐธรรมนูญ อธิปไตย และความเป็นเอกราชของประเทศ รวมถึงเรียกร้องให้ชาวเลบานอนทุกคนยอมทิ้งความแตกต่างเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่
ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติได้ให้การต้อนรับสไลมานอย่างยิ่งใหญ่หลังเขาเดินทางถึงรัฐสภาอีกด้วย
ด้านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวแสดงความยินดีที่เลบานอนได้ประธานาธิบดีคนใหม่
“ผมมั่นใจว่าเลบานอนได้เลือกผู้นำที่จะยืนหยัดปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงข้อผูกพันระหว่างประเทศภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และกระจายอำนาจไปยังชาวเลบานอนทุกคน ซึ่งผมยังตั้งตารอที่จะได้ทำงานกับท่านประธานาธิบดีสไลมานในอนาคตเพื่อตามหาคุณค่าร่วมกันของเสรีภาพและอิสรภาพอีกด้วย” บุชกล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า เขาหวังว่าข้อตกลงในกรุงโดฮา ซึ่งปูทางสู่การเลือกตั้งในครั้งนี้ จะนำไปสู่ยุคแห่งความสมานฉันท์ทางการเมืองซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาวเลบานอนทุกคนในอนาคต
ทั้งนี้ตำแหน่งประธานาธิบดีของเลบานอนว่างลงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากอดีตประธานาธิบดีเอมิล ลาฮูด ซึ่งสนับสนุนซีเรีย ก้าวลงจากตำแหน่งเนื่องจากหมดวาระ โดยไม่มีการเลือกผู้สืบทอดอำนาจคนใหม่ เนื่องจากการต่อสู้อันยาวนานระหว่างกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลที่ตะวันตกหนุนหลังและกลุ่มติดอาวุธฝ่ายค้านเฮซบอเลาะห์ซึ่งหนุนหลังโดยซีเรียและอิหร่าน
ขณะที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มเฮซบอเลาะห์บรรลุข้อตกลงหลังการเจรจาในกรุงโดฮาของกาตาร์เพื่อยุติวิกฤติการเมืองที่ยืดเยื้อมานาน ซึ่งรวมถึงการเลือกสไลมานขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและการสร้างรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ
สไลมานในชุดสูทสีดำและเนกไทสีเทาซึ่งยืนอยู่ต่อหน้าสมาชิกสภานิติบัญญัติของเลบานอนหลังร่วมในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ได้ขอให้ทุกคนยืนไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตที่ไม่ยอมละทิ้งอุดมการณ์ของตัวเอง
ผู้นำคนใหม่ของเลบานอนยังได้ให้คำมั่นว่าจะปกป้องรัฐธรรมนูญ อธิปไตย และความเป็นเอกราชของประเทศ รวมถึงเรียกร้องให้ชาวเลบานอนทุกคนยอมทิ้งความแตกต่างเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่
ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติได้ให้การต้อนรับสไลมานอย่างยิ่งใหญ่หลังเขาเดินทางถึงรัฐสภาอีกด้วย
ด้านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวแสดงความยินดีที่เลบานอนได้ประธานาธิบดีคนใหม่
“ผมมั่นใจว่าเลบานอนได้เลือกผู้นำที่จะยืนหยัดปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงข้อผูกพันระหว่างประเทศภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และกระจายอำนาจไปยังชาวเลบานอนทุกคน ซึ่งผมยังตั้งตารอที่จะได้ทำงานกับท่านประธานาธิบดีสไลมานในอนาคตเพื่อตามหาคุณค่าร่วมกันของเสรีภาพและอิสรภาพอีกด้วย” บุชกล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า เขาหวังว่าข้อตกลงในกรุงโดฮา ซึ่งปูทางสู่การเลือกตั้งในครั้งนี้ จะนำไปสู่ยุคแห่งความสมานฉันท์ทางการเมืองซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาวเลบานอนทุกคนในอนาคต
ทั้งนี้ตำแหน่งประธานาธิบดีของเลบานอนว่างลงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากอดีตประธานาธิบดีเอมิล ลาฮูด ซึ่งสนับสนุนซีเรีย ก้าวลงจากตำแหน่งเนื่องจากหมดวาระ โดยไม่มีการเลือกผู้สืบทอดอำนาจคนใหม่ เนื่องจากการต่อสู้อันยาวนานระหว่างกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลที่ตะวันตกหนุนหลังและกลุ่มติดอาวุธฝ่ายค้านเฮซบอเลาะห์ซึ่งหนุนหลังโดยซีเรียและอิหร่าน
ขณะที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มเฮซบอเลาะห์บรรลุข้อตกลงหลังการเจรจาในกรุงโดฮาของกาตาร์เพื่อยุติวิกฤติการเมืองที่ยืดเยื้อมานาน ซึ่งรวมถึงการเลือกสไลมานขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและการสร้างรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ