ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าของ บ.รับจ้างต่อเรือ ประสานขอความช่วยเหลือจากทัพเรือภาคที่ 1 ช่วยสกัดจับลูกค้าชาวอินโดนีเซีย จ้างต่อเรือขุดแร่มูลค่า 32 ล้านบาท จ่ายค่าจ้างยังไม่ครบ ขาดอีก 8 แสน แต่กลับเชิดเรือออกจากท่าไปก่อน
นายอดิศักดิ์ เที่ยงธรรม ประธานบริษัทไทยสายสุริยา รับจ้างต่อและซ่อมเรือเดินทะเล เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ได้เข้าแจ้งความไว้ที่กองปราบปรามว่า ถูกนาย AHOH ชาวอินโดนีเซีย อายุประมาณ 40 ปี พร้อมลูกเรือชาวไทยอีก 15 คน ยักยอกทรัพย์สิน และนำเรือขุดแร่ขนาดใหญ่ ชื่อเรือ HAJAR MAHACHOKAKIN เป็นเรือเหล็ก ความยาวตลอดลำ 70 เมตร กว้าง 16 เมตร สูง 7 เมตร ตัวเรือสีขาว สลับสีน้ำเงิน ขับเคลื่อนด้วย 3 ใบจักร ออกจากท่าเรือสมุทรสาคร มุ่งหน้าภาคใต้ และได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ และทัพเรือภาค 1 กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.เขต 1 เพื่อช่วยแจ้งเครือข่ายภาคพื้นทะเลตรวจสอบ และติดตามเรือขุดแร่ลำดังกล่าวที่หายไป
ต่อมา พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาค 1 ได้สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาค 1 นำเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ แบบ S-70B ปรับแผนบินตรวจการณ์ลาดตระเวน และเรือรบปรับแผนลาดตระเวน ตรวจสอบเรือขุดแร่ดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ และได้ประสานไปยังทัพเรือภาค 2 ภาค 3 ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลทุกแห่ง เพื่อแจ้งเครือข่าวสรรพกำลังทางทะเลช่วยกันตรวจสอบ ตามล่าก่อนที่เรือลำดังกล่าวจะออกนอกน่านน้ำรับผิดชอบของไทย ซึ่งคาดว่าเรือลำดังกล่าวยังอยู่ในเขตไทย เพราะขณะนี้คลื่นลมในทะเลแรงมาก
นายอดิศักดิ์ เที่ยงธรรม เจ้าของบริษัทไทยสายสุริยา เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัท พี.ที.เมอราจ อากุง แฟกตี้ จำกัด บริษัทขุดแร่ประเทศอินโดนีเซียได้นำเรือเหล็กขนาดความยาว 56 เมตร กว้าง 7 เมตร มาให้ต่อเติมให้ใหญ่ และยาวกว่าเดิมเป็น 70 เมตร กว้าง 16 เมตร ขณะนี้ได้ดำเนินการเรียบร้อยเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทางบริษัท พี.ที. เมอราจฯ ได้จ่ายเงินว่าจ้างมาแล้ว 32 ล้าน เหลืออีกประมาณ 8 แสนบาท และทรัพย์สินที่อยู่ในเรืออีกประมาณ 4 แสนบาท รวมเงินกว่า 1 ล้านบาทที่ยังไม่ยอมจ่าย แต่นาย AHOH ชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทของประเทศอินโดนีเซีย ได้ฉวยโอกาสนำเรือหายออกไปจากท่าเรือโดยที่ยังไม่จ่ายเงินว่าจ้างตามข้อตกลงแต่อย่างใด
นายอดิศักดิ์ เที่ยงธรรม ประธานบริษัทไทยสายสุริยา รับจ้างต่อและซ่อมเรือเดินทะเล เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ได้เข้าแจ้งความไว้ที่กองปราบปรามว่า ถูกนาย AHOH ชาวอินโดนีเซีย อายุประมาณ 40 ปี พร้อมลูกเรือชาวไทยอีก 15 คน ยักยอกทรัพย์สิน และนำเรือขุดแร่ขนาดใหญ่ ชื่อเรือ HAJAR MAHACHOKAKIN เป็นเรือเหล็ก ความยาวตลอดลำ 70 เมตร กว้าง 16 เมตร สูง 7 เมตร ตัวเรือสีขาว สลับสีน้ำเงิน ขับเคลื่อนด้วย 3 ใบจักร ออกจากท่าเรือสมุทรสาคร มุ่งหน้าภาคใต้ และได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ และทัพเรือภาค 1 กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.เขต 1 เพื่อช่วยแจ้งเครือข่ายภาคพื้นทะเลตรวจสอบ และติดตามเรือขุดแร่ลำดังกล่าวที่หายไป
ต่อมา พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาค 1 ได้สั่งการให้หมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาค 1 นำเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ แบบ S-70B ปรับแผนบินตรวจการณ์ลาดตระเวน และเรือรบปรับแผนลาดตระเวน ตรวจสอบเรือขุดแร่ดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ และได้ประสานไปยังทัพเรือภาค 2 ภาค 3 ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลทุกแห่ง เพื่อแจ้งเครือข่าวสรรพกำลังทางทะเลช่วยกันตรวจสอบ ตามล่าก่อนที่เรือลำดังกล่าวจะออกนอกน่านน้ำรับผิดชอบของไทย ซึ่งคาดว่าเรือลำดังกล่าวยังอยู่ในเขตไทย เพราะขณะนี้คลื่นลมในทะเลแรงมาก
นายอดิศักดิ์ เที่ยงธรรม เจ้าของบริษัทไทยสายสุริยา เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัท พี.ที.เมอราจ อากุง แฟกตี้ จำกัด บริษัทขุดแร่ประเทศอินโดนีเซียได้นำเรือเหล็กขนาดความยาว 56 เมตร กว้าง 7 เมตร มาให้ต่อเติมให้ใหญ่ และยาวกว่าเดิมเป็น 70 เมตร กว้าง 16 เมตร ขณะนี้ได้ดำเนินการเรียบร้อยเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทางบริษัท พี.ที. เมอราจฯ ได้จ่ายเงินว่าจ้างมาแล้ว 32 ล้าน เหลืออีกประมาณ 8 แสนบาท และทรัพย์สินที่อยู่ในเรืออีกประมาณ 4 แสนบาท รวมเงินกว่า 1 ล้านบาทที่ยังไม่ยอมจ่าย แต่นาย AHOH ชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทของประเทศอินโดนีเซีย ได้ฉวยโอกาสนำเรือหายออกไปจากท่าเรือโดยที่ยังไม่จ่ายเงินว่าจ้างตามข้อตกลงแต่อย่างใด