xs
xsm
sm
md
lg

BOI ขึ้นเหนือรับฟังปัญหานักลงทุน-ญี่ปุ่นขอภาครัฐบริการครบวงจร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – BOI เผย 4 เดือนแรกปี 51 อนุมัติส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนแล้ว 13 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 1,400 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการลงทุนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่าร้อยละ 32 นักลงทุนญี่ปุ่นเผยปัญหาแรงงานไทยที่ยังขาดทักษะพร้อมวอนภาครัฐเปิดบริการแบบครบวงจรในจุดเดียว ทั้งเน้นการเปิดอบรมให้กับแรงงานระดับปฏิบัติงานให้มากขึ้น

นายชิตวร วรศักดิ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ในฐานะเป็นประธานเปิดการประชุม “ผู้บริหารบีโอไอพบนักลงทุนชาวญี่ปุ่น” วันนี้ (30 เม.ย.) ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ ว่า จากการพูดคุยกับนักลงทุนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่นักลงทุนต้องการสะท้อนให้บีโอไอได้ช่วยแก้ปัญหารร่วมกัน

ปรากฏว่า ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นการเรียกร้องขอให้ภาครัฐของไทยให้บริการแบบ ครบวงจรในที่เดียวเพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็ว เนื่องจากปัจจุบันการติดต่อกับส่วนราชการ มักจะกระจัดกระจาย โดยภาษาทางการสื่อสารก็จะไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน

นอกจากนี้แล้ว ยังมีการสะท้อนเกี่ยวกับปัญหาแรงงานไทย ที่เมื่อเกิดความไม่เข้าใจกันก็มักจะมีการประท้วงหรือไม่ก็ลาออกไปซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำ หรือแม้แต่การเรียกร้องให้มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับทักษะในการทำงาน โดยเฉพาะกับผู้บริหารระดับกลาง นอกจากนี้ยังเน้นในเรื่องของสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ให้เอื้ออำนวยต่อการลงทุนมากกว่าเดิม

นายชิตวร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่นักลงทุนได้สะท้อน ในความเป็นจริงแล้วภาครัฐเองก็ได้พยายามทำก่อนหน้านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดสถาบันการศึกษาไทย-ญี่ปุ่นขึ้นเพื่อต้องการผลิตบุคคลากรออกมาให้สามารถทำงานและสื่อสารกับนักลงทุนญี่ปุ่นได้รู้เรื่องซึ่งตอนนี้ก็เพิ่งเปิดเป็นปีแรก

ส่วนกรณีการเทรนนิ่งฝึกอบรมต่างๆ นั้น จะได้มีการติดต่อประสานไปยังกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องทักษะต่างๆ ที่ผู้ใช้แรงงานจะต้องปรับตัวหรือปรับปรุงให้เข้ากับงานประเภทต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นแต่ทั้งนี้ก็คงต้องขอความร่วมมือกับนักลงทุนญี่ปุ่นเองเหมือนกันว่าอาจจะต้องมีการส่งผู้บริหารของบริษัทตนเองเข้ามาช่วยฝึกอบรมให้กับแรงงานดังกล่าวด้วย

สำหรับภาวะการลงทุนของภาคเหนือตอนบน ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2551 นี้ มีจำนวนโครงการในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 24 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,473.2 ล้านบาท โดยจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเพียง 13 โครงการ แต่มูลค่าเงินลงทุนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีถึง 2,169 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 32.08

ทั้งนี้ จากโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนดังกล่าวนั้น มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 544.8 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 18 โครงการ มูลค่าการลงทุน 2,572.1 ล้านบาท ซึ่งลดลงคิดเป็นร้อยละ 33.3 และร้อยละ 78.82 ตามลำดับ

ส่วนประเภทกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุดในช่วง 4 เดือนแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มูลค่าการลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยเป็นกิจการเขตอุตสาหกรรมภาพยนตร์ หรือ Movie Town รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมเกษตรและผลิตผลทางการเกษตร มูลค่าการลงทุน 172.5 ล้านบาท และอุตสาหกรรมโลหะหนัก เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มูลค่าการลงทุน 61.6 ล้านบาท

จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจลงทุนสูงสุดของภาคเหนือตอนบนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ โดยมีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งสิ้น 7 โครงการ มูลค่าการลงทุน 323 ล้านบาท ซึ่งมีโครงการที่น่าสนใจเป็นโครงการ Movie Town มูลค่าการลงทุน 200 ล้านบาท รองลงมาเป็นจังหวัดลำพูน ที่มีจำนวนโครงการ 6 โครงการ มูลค่าการลงทุน 221.8 ล้านบาท

สำหรับสัดส่วนการลงทุนของโครงการที่ได้รับการส่งเสริมแบ่งตามสัดส่วน การถือหุ้นในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้นั้น เป็นโครงการที่ชาวต่างชาติถือหุ้นทั้งหมด จำนวน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุน 340.1 ล้านบาท โครงการที่คนไทยถือหุ้นทั้งหมด จำนวน 5 โครงการ มูลค่าการลงทุน 195.2 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ จำนวน 1 โครงการ มูลค่าการลงทุน 9.5 ล้านบาท

ส่วนนักลงทุนจากต่างชาติที่มีการลงทุนมากที่สุดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เป็นนีกลงทุนจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มูลค่าการลงทุน 200 ล้านบาท ในกิจการเขตอุตสาหกรรมภาพยนตร์ รองลงมาเป็นสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่าการลงทุน 58.6 ล้านบาท เดนมาร์ก มูลค่าการลงทุน 52.5 ล้านบาท ฮ่องกง/เกาหลี มูลค่าการลงทุน 26 ล้านบาท ออสเตรเลีย มูลค่าการลงทุน 9.5 ล้านบาท และแคนาดา มูลค่าการลงทุน 3 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น