ฉะเชิงเทรา - ชาวแปดริ้วกระอัก หลังถูกพายุหมุนฤดูร้อนพัดโหมกระหน่ำใส่รายวัน อย่างบ้าคลั่ง ต่อเนื่องถึง 4 ครั้ง ตลอดสัปดาห์ ทำบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายกันทั่วหน้ากว่า 2 พันหลัง
น.ส.งามพิศ แก้วประดิษฐ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ถูกพายุหมุนฤดูร้อนพัดถล่มใส่ถึง 4 ครั้ง อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 เม.ย.51 เป็นต้นมาตลอดสัปดาห์ ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนใน 6 อำเภอ คือ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เสียหาย 370 หลังคาเรือน แปลงยาว 191 หลังคาเรือน บางน้ำเปรี้ยว 205 หลังคาเรือน บางคล้า 133 หลังคาเรือน บ้านโพธิ์ 364 หลังคาเรือน พนมสารคาม 66 หลังคาเรือน
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมามีพายุพัดถล่มซ้ำอีกใน 2 อำเภอ คือ อ.บางปะกง และบ้านโพธิ์ ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนหลังคาพังเสียหายเพิ่มขึ้นอีก เสาไฟฟ้าหักโค่น และต้นไม้ล้ม ซึ่งยังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ถึงขณะนี้ข้อมูลตามที่ได้รับรายงานแจ้งเข้ามา รวมแล้วมีบ้านเรือนเสียหายมากถึง 1,329 หลังคาเรือน วัด 1 แห่ง เล้าไก่ 28 หลัง และสวนยางพารา 6 ไร่ และยังมีบางอำเภอที่ยังไม่ได้รายงานเข้ามา คือ อ.สนามชัยเขต และท่าตะเกียบ ซึ่งคาดว่ายังอยู่ระหว่างการสำรวจ
นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนบางส่วน ที่ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย และไม่ได้เข้ามาแจ้งให้ทางหน่วยงานราชการทราบอีกจำนวนมาก ซึ่งคาดว่ายอดความเสียหายทั้งหมดน่าจะมีมากถึงกว่า 2 พันหลังคาเรือน
ด้านนางสมศรี มั่นคง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.6 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า บ้านของตนถูกลมพายุพัดหมุนใส่ทำให้หลังคาบ้านปลิวหายไปตามกระแสลมถึงสองครั้ง โดยครั้งแรก เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 เม.ย.51 ถูกลมพายุพัดหลังคาสังกะสีปลิวหายไปหนึ่งซีกของตัวบ้าน แต่ไม่ได้เข้าไปแจ้งให้ทางหน่วยงานราชการทราบ โดยเสียเงินค่าซ่อมแซมไปหนึ่งหมื่นกว่าบาทเอง
แต่พอเกิดเหตุลมพายุพัดหลังคาบ้านอีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านปลิวหายไปอีกเป็นรอบที่ 2 เมื่อคืนวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงได้รับคำแนะนำจากญาติ ให้เข้าไปแจ้งความเสียหายกับ อบต.เทพราช แต่ทาง อบต.กลับปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ โดยอ้างว่าบ้านเรือนของตนปลูกสร้างอยู่นอกพื้นที่ความรับผิดชอบ เนื่องจากปลูกสร้างอยู่ตามแนวตะเข็บรอยต่อของจังหวัด ระหว่าง อบต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กับ อบต.คลองนิยมยาตรา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
"บ้านของฉันมีเลขที่บ้านอยู่ในเขต ต.เทพราช แต่ตัวบ้านปลูกสร้างเลยเข้ามาอยู่ในเขตของ ต.คลองนิยมยาตรา จึงไม่รู้ว่าหน่วยงานของจังหวัดใดจะเป็นผู้เข้ามาดูแลความเสียหายให้ แต่ล่าสุดได้มีเจ้าหน้าที่ของ อบต.คลองนิยมยาตรา เข้ามาดูความเสียหาย และถ่ายรูปไปแล้ว"นางสมศรีกล่าว