ฉะเชิงเทรา - หน่วยงานภาครัฐเร่งลงพื้นที่สำรวจให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากเหตุพายุพัดถล่มบ้านเรือนราษฎร เมื่อช่วงเย็นวานนี้พบความเสียหายทั่วหน้าทั้ง 11 อำเภอ รวมกว่า 1,000 ครัวเรือน ไม่เว้นเทือกสวนไร่นาสวนยางพาราอีกหลายพันไร่ เบื้องต้นเตรียมเจียดงบจังหวัดช่วยบรรเทาความทุกร้อน
วันนี้ (18 เม.ย.) เวลา 13.00 น. นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมหัวหน้าส่วนงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนราษฎร ในพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังจากถูกพายุหมุนพัดกระหน่ำจนได้รับความเสียหายไปทั่วทุกอำเภอ เมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมา
นายอานนท์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากที่ได้รับรายงานทราบว่าบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั่วทั้งจังหวัดรวม 11 อำเภอ โดยอำเภอที่เสียหายหนักมากที่สุดคือ เขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กว่า 200 หลังคาเรือน อ.บ้านโพธิ์ มีบ้านพักที่อยู่อาศัยของราษฎรเสียหาย 50 หลัง เล้าไก่ 28 หลัง แปลงยาว 40 หลัง บางคล้า 30 หลัง และที่ยังไม่ได้รายงานเข้ามาอีกจำนวนมากในหลายอำเภอ
เบื้องต้นจะได้นำงบประมาณช่วยเหลือภัยพิบัติของผู้ว่าราชการจังหวัดมาให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนตามสภาพ รายละไม่เกิน 3 หมื่นบาท โดยจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร จากกองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า จำนวน 100 นาย จากกองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ ค่ายศรีโสธร 100 นายเข้ามาให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนให้แก่ราษฎร โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการซ่อมแซมประมาณ 3-4 วัน จึงจะแล้วเสร็จ
ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายนั้น คาดว่ายังมีอีกจำนวนมาก ในพื้นที่ อ.สนามชัย และท่าตะเกียบ โดยส่วนใหญ่เป็นสวนยางพาราที่ล้มหักโค่นจะให้การช่วยเหลือแยกไปอีกส่วนหนึ่งโดยจะให้ทางเกษตรจังหวัดเข้าไปทำการสำรวจ โดยจะนำเข้า กชปจ. ซึ่งอาจจะช่วยเหลือเป็นกล้าพันธุ์ไม้ไป
ด้าน นายเฉลิมชัย ปัณฑะโชติ นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จากการสำรวจล่าสุดพบว่าในเขตพื้นที่ของอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายมากถึง 326 หลังคาเรือน โดยในตำบลบางเตย เสียหายมากถึง 150 หลังคาเรือน บางกะไห 70 บางพระ 50 หนามแดง 20 บางตีนเป็ด 22 วังตะเคียน 10 คลองนครเนื่องเขต 3 และคลองเปรง 1 หลังคาเรือน