เชียงราย - ผู้อำนวยการการเลือกตั้งเชียงราย หวั่นภัยมืดจำต้องพก .357 ติดตัว หลัง ผอ.กต.จันทบุรี ถูกยิงดับ แม้จะทำตามหน้าที่ตรงไปตรงมา
นายอมรพงศ์ วิชิตะกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กต.) ประจำจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ได้รับทราบข่าวกรณีคนร้ายบุกยิง นายสมภพ เพิ่มพูล ผอ.กต.จันทบุรี เสียชีวิต ภายหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการคุกคามการทำงานของ กกต.โดยตรง แต่ไม่ว่าสาเหตุการสังหารจะมาจากเรื่องใด ทั้งเรื่องการเมืองหรือเรื่องส่วนตัว อยากเร่งรัดให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย ตลอดจนผู้บงการทั้งหมดมาลงโทษให้ได้ เพราะสะเทือนขวัญคนทำงานในแวดวง กกต. และเชื่อว่าจะเป็นโจษจันท์ในส่วนของประชาชนมากพอสมควร
นายอมรพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของ จ.เชียงราย ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่การเมืองใหญ่ซึ่งมีการแข่งขันกันสูงของหลายขั้วการเมือง และที่ผ่านมา ตนได้เคยสืบสวนสอบสวน และมีคำวินิจฉัยให้คณะ กกต.กลาง สั่งลงโทษผู้สมัครและนักการเมืองท้องถิ่นที่กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งมาก็มาก จึงได้เพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่ามีใครรักและใครเกลียดชังบ้าง จากการที่เราได้ทำหน้าดังกล่าวลงไป
ในส่วนของการระวังตัวเพื่อป้องกันภัยมืด ได้ขออนุญาตพกพาอาวุธปืนลูกโม่สเตนเลสขนาด .357 ลำกล้อง 4 นิ้ว อาวุธปืนประจำกายเอาไว้ เตรียมพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ หากมีเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ต้องสามารถเซฟหรือช่วยชีวิตเบื้องต้นไว้ก่อน แต่ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าจากการที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ผิดคือผิด ถูกคือถูก ไม่มีล้ำเส้นเอนเอียง เชื่อว่าจะเป็นจุดยืนของเรา ที่ผู้ถูกตัดสินย่อมเข้าใจดี และจากการทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์โปร่งใสของตน คงไม่ทำให้ต้องถึงขั้นข่มขู่หรือหมายมั่นเอาชีวิตแน่
ผอ.กต.เชียงราย กล่าวในส่วนของการรับร้องเรียนการเลือกตั้ง อบจ.เชียงราย ว่าได้มีการประชุมนำข้อร้องเรียนการเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ.เข้าหารือ มีการตัดประเด็นหลายเรื่อง ที่ไม่เข้าข่าย และขาดประจักษ์พยานหลักฐานออกไป ส่วนเรื่องที่เข้าข่ายมีมูล ก็สั่งสอบสวนเชิงลึก
ในส่วนที่จะมีการเข้าร้องเรียนของกลุ่มการเมือง ระบุว่าผู้ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย กระทำทุจริตนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเข้ามาทั้งสิ้น โดยทาง กกต.รออยู่ หากมีการร้องเรียน โดยมีการอ้างอิงพยานหลักฐานชัดเจน กกต.จะได้ดำเนินการได้ทันที
นายอมรพงศ์ วิชิตะกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กต.) ประจำจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ได้รับทราบข่าวกรณีคนร้ายบุกยิง นายสมภพ เพิ่มพูล ผอ.กต.จันทบุรี เสียชีวิต ภายหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการคุกคามการทำงานของ กกต.โดยตรง แต่ไม่ว่าสาเหตุการสังหารจะมาจากเรื่องใด ทั้งเรื่องการเมืองหรือเรื่องส่วนตัว อยากเร่งรัดให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย ตลอดจนผู้บงการทั้งหมดมาลงโทษให้ได้ เพราะสะเทือนขวัญคนทำงานในแวดวง กกต. และเชื่อว่าจะเป็นโจษจันท์ในส่วนของประชาชนมากพอสมควร
นายอมรพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของ จ.เชียงราย ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่การเมืองใหญ่ซึ่งมีการแข่งขันกันสูงของหลายขั้วการเมือง และที่ผ่านมา ตนได้เคยสืบสวนสอบสวน และมีคำวินิจฉัยให้คณะ กกต.กลาง สั่งลงโทษผู้สมัครและนักการเมืองท้องถิ่นที่กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งมาก็มาก จึงได้เพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่ามีใครรักและใครเกลียดชังบ้าง จากการที่เราได้ทำหน้าดังกล่าวลงไป
ในส่วนของการระวังตัวเพื่อป้องกันภัยมืด ได้ขออนุญาตพกพาอาวุธปืนลูกโม่สเตนเลสขนาด .357 ลำกล้อง 4 นิ้ว อาวุธปืนประจำกายเอาไว้ เตรียมพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ หากมีเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ต้องสามารถเซฟหรือช่วยชีวิตเบื้องต้นไว้ก่อน แต่ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าจากการที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ผิดคือผิด ถูกคือถูก ไม่มีล้ำเส้นเอนเอียง เชื่อว่าจะเป็นจุดยืนของเรา ที่ผู้ถูกตัดสินย่อมเข้าใจดี และจากการทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์โปร่งใสของตน คงไม่ทำให้ต้องถึงขั้นข่มขู่หรือหมายมั่นเอาชีวิตแน่
ผอ.กต.เชียงราย กล่าวในส่วนของการรับร้องเรียนการเลือกตั้ง อบจ.เชียงราย ว่าได้มีการประชุมนำข้อร้องเรียนการเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ.เข้าหารือ มีการตัดประเด็นหลายเรื่อง ที่ไม่เข้าข่าย และขาดประจักษ์พยานหลักฐานออกไป ส่วนเรื่องที่เข้าข่ายมีมูล ก็สั่งสอบสวนเชิงลึก
ในส่วนที่จะมีการเข้าร้องเรียนของกลุ่มการเมือง ระบุว่าผู้ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย กระทำทุจริตนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเข้ามาทั้งสิ้น โดยทาง กกต.รออยู่ หากมีการร้องเรียน โดยมีการอ้างอิงพยานหลักฐานชัดเจน กกต.จะได้ดำเนินการได้ทันที