หนองคาย - ชาวโพนพิสัยฮือฮาขุดพบพระพุทธรูปปางประทานอภัย เก่าแก่สมัยล้านช้าง อายุราว 200 ปี จมอยู่พื้นดิน ขณะนำรถแบ็กโฮขุดเพื่อเตรียมสร้างบ้าน เร่งหารือกรรมการหมู่บ้านและทางอำเภอก่อนมีมติมอบให้ตำรวจเก็บรักษาแล้วสร้างสถานที่ประดิษฐานที่มิดชิดปลอดภัยภายในวัดประจำหมู่บ้านจึงจะอัญเชิญไปเก็บรักษาที่วัด
เย็นวานนี้ (24 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายบรรจง โฮมชัย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/18 หมู่ 6 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อาชีพผลิตชิ้นส่วนอะไหล่โรงสีข้าวว่าได้ขุดพบพระพุทธรูปเก่าแก่ที่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างบ้านหลังใหม่ของตนเอง ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดสุคันธวารี บ้านหนองอั้ว ต.ทุ่งหลวง อ.โพนพิสัย เพียง 30 เมตร
ขณะนี้ได้อัญเชิญพระพุทธรูปไปเก็บที่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 บ้านหนองอั้ว ซึ่งเป็นบ้านของนางบัวหลวง โฮมชัย มารดาของตนเองจึงได้เดินทางไปพิสูจน์พร้อมทั้งมีนายทฤษฎี วิเศษ ปลัดอาวุโสอำเภอโพนพิสัย, พ.ต.ท.กิตติพงศ์ เขียวหวาน สารวัตรใหญ่ สภ.เหล่าต่างคำ และยังมีชาวบ้านอีกจำนวนมากไปพิสูจน์ด้วย
พอไปถึงบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น พระพุทธรูปถูกอัญเชิญไว้บนชั้น 2 ของบ้าน เก็บใส่ตู้ปิดประตูแน่นหนา นายบรรจงได้นำพระพุทธรูปออกมาให้ทุกคนดู และแจ้งว่าได้ประสานกับนักโบราณคดีจากสำนักศิลปากรที่ 9 ขอนแก่น และกัณฑารักษ์จากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ขอนแก่น มาทำการตรวจสอบเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา
ปรากฏว่า พระพุทธรูปดังกล่าวนี้เป็นพระพุทธรูปสำริด ปางประทานอภัย ความสูงจากพระชงฆ์เบื้องล่างถึงพระเศียร 85 เซนติเมตร หนัก 31 กิโลกรัม ไม่มียอดพระเกศ พระหัตถ์ด้านขวาหัก ต้องใช้วัสดุพิเศษติดไว้ นักโบราณคดีแจ้งว่าหลักฐานที่พบกำหนดอายุในเบื้องต้นได้ว่าเป็นพระพุทธรูปในศิลปะล้านช้าง ในราวพุทธศตวรรษที่ 23-24 หรือ ราว พ.ศ.2300-2400
นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงกับจุดที่พบพระพุทธรูปยังพบชิ้นส่วนปากภาชนะดินเผาเนื้อเครื่องถ้วย เคลือบสีขาว 1 ชิ้น และเศษอิฐรูปทรงสี่เหลี่ยม 8 ชิ้น โดยทั้งหมดนี้เป็นพระพุทธรูปสมัยโบราณไม่สามารถประเมินค่าได้
นายบรรจง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนเดินทางกลับจาก จ.ปทุมธานี เพื่อมาก่อสร้างบ้านในพื้นที่ดินมรดกที่ได้รับจากมารดา โดยบริเวณที่ก่อสร้างบ้านนั้นอยู่ใกล้กับวัดสุคันธวารี วัดประจำหมู่บ้าน เพียง 30 เมตร ทำการปรับพื้นที่เรียบร้อย และเริ่มวางเสาเข็มสร้างบ้าน ขณะที่ให้รถแบ็กโฮมาทำการขุดพื้นดินเพื่อจะทำห้องใต้ดินนั้น
ส่วนมือกระบะของรถแบ็กโฮได้กระแทกกับวัตถุบางอย่างเกิดเสียงดัง พอเทกระบะออกกลับพบชิ้นส่วนคล้ายกับพระหัตถ์ของพระพุทธรูป จึงพากันขุดดินก็พบพระพุทธรูปดังกล่าวจมอยู่ใต้พื้นดินในลักษณะประทับยืน ตนจึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในหมู่บ้านได้ทราบ พร้อมทั้งอัญเชิญขึ้นมาปัดเศษดินออก และอัญเชิญมาไว้ที่บ้านแม่เพื่อความปลอดภัย
จนกระทั่งได้ปรึกษาหารือกับชาวบ้าน ร่วมกับทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมติร่วมกันว่า ตนจะมอบพระพุทธรูปที่ขุดพบนี้แก่ทางวัดสุคันธวารี เพื่อให้เป็นที่เคารพสักการบูชาของชาวบ้านและประชาชนทั่วไป ซึ่งหลังจากขุดพบพระพุทธรูปนี้ในพื้นที่ของตนเองก็ปรากฏว่าส่งผลดีต่อชีวิต มีออเดอร์งานผลิตชิ้นส่วนอะไหล่เพิ่มขึ้น จึงเชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์และพรที่ดีจากการขุดพบพระพุทธรูปโบราณ
ด้าน นายทฤษฎี วิเศษ ปลัดอาวุโสอำเภอโพนพิสัย กล่าวว่า กรณีที่มีชาวบ้านขุดพบพระพุทธรูปเก่าแก่นี้ ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ได้กำหนดให้กรณีที่มีการพบโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุที่ซ่อนหรือฝังหรือทอดทิ้งไว้ในราชอาณาจักรโดยพฤติการณ์ที่ไม่มีผู้ใดอ้างว่าเป็นเจ้าของได้ไม่ว่าที่ซ่อนหรือฝังหรือทอดทิ้งจะอยู่ในกรรมสิทธิ์หรือความครอบครองของบุคคลใดหรือไม่ ให้ตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ผู้เก็บได้ต้องส่งมอบแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในโอกาสนี้ นายบรรจงได้ส่งมอบพระพุทธรูปและเศษอิฐ เนื้อกระเบื้องที่พบในคราวเดียวกัน ให้แก่ พ.ต.ท.กิตติพงศ์ เขียวหวาน นำไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เหล่าต่างคำ ป้องกันรักษาไว้ แล้วให้หมู่บ้าน และ อบต.ทุ่งหลวง ทำการก่อสร้างหรือจัดหาสถานที่ที่เหมาะสม ปลอดภัย เพื่ออัญเชิญพระพุทธรูปปางนี้ไปประดิษฐานไว้ในวัดสุคันธวารี ให้เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนในลำดับต่อไป
