พิจิตร - ชาวนาพิจิตรสนองพระราชดำรัส สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเป็นห่วงชาวนาว่าทำนาแล้วก็ขอให้เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้เป็นข้าวเปลือกเพื่อจะได้ลดต้นทุนในการผลิต
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรว่า ขณะนี้ที่ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร นางพเยาว์ โพธิ์ศรี อายุ 44 ปี ชาวนาหมู่ที่ 3 ต.งิ้วราย ได้นำพันธุ์ข้าวไปใช้กับเครื่องร่อนคัดแยกพันธุ์ข้าวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผลิตและขยายพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านงิ้วราย อ.ตะพานหิน ที่ชาวบ้านลงหุ้นกันสร้างขึ้นและมีไว้บริการชาวบ้าน เป็นเครื่องร่อนแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งเป็นเครื่องจักรขนาดเล็ก วันหนึ่งจะผลิตเมล็ดพันธุข้าวปลูกได้แค่ 2 เกวียนโดยจะแยกคัดเลือกจากเครื่องร่อนข้าว 1 เกวียน จะเหลือเป็นข้าวปลูกได้ประมาณ 70 ถึง 80 ถัง แล้วแต่ความสมบรูณ์ของข้าว โดยสิ่งที่ปลอมปน วัชพืช เมล็ดข้าวลีบ จะถูกคัดทิ้ง และเหลือเป็นข้าวปลูกที่มีคุณภาพให้ชาวนานำไปเพาะปลูกได้
สำหรับเครื่องคัดแยกดังกล่าวชาวนาที่จะมาใช้จะต้องเสียค่าดำเนินการ โดยกลุ่มจะเก็บค่าดำเนินการตันละ 300 บาท ซึ่งขณะนี้สมาชิกทั้งหมู่บ้านกว่า 100 คน เริ่มเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้เพาะปลูกในฤดูกาลต่อไป เพราะถ้าไปซื้อในท้องตลาดสู้ราคาจะแพงถึงตันละ 2 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าแพงมากชาวนาสู้ไม่ไหว อีกทั้งยังไม่ได้พันธุ์ข้าวอย่างดีเหมือนกับที่ทำเองด้วยมือของชาวนาเอง
ทั้งนี้ หลังจากที่มีพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทำให้ชาวนาเกิดจิตสำนึกในการทำการเกษตรกรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงมากขึ้นอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรว่า ขณะนี้ที่ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร นางพเยาว์ โพธิ์ศรี อายุ 44 ปี ชาวนาหมู่ที่ 3 ต.งิ้วราย ได้นำพันธุ์ข้าวไปใช้กับเครื่องร่อนคัดแยกพันธุ์ข้าวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผลิตและขยายพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านงิ้วราย อ.ตะพานหิน ที่ชาวบ้านลงหุ้นกันสร้างขึ้นและมีไว้บริการชาวบ้าน เป็นเครื่องร่อนแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งเป็นเครื่องจักรขนาดเล็ก วันหนึ่งจะผลิตเมล็ดพันธุข้าวปลูกได้แค่ 2 เกวียนโดยจะแยกคัดเลือกจากเครื่องร่อนข้าว 1 เกวียน จะเหลือเป็นข้าวปลูกได้ประมาณ 70 ถึง 80 ถัง แล้วแต่ความสมบรูณ์ของข้าว โดยสิ่งที่ปลอมปน วัชพืช เมล็ดข้าวลีบ จะถูกคัดทิ้ง และเหลือเป็นข้าวปลูกที่มีคุณภาพให้ชาวนานำไปเพาะปลูกได้
สำหรับเครื่องคัดแยกดังกล่าวชาวนาที่จะมาใช้จะต้องเสียค่าดำเนินการ โดยกลุ่มจะเก็บค่าดำเนินการตันละ 300 บาท ซึ่งขณะนี้สมาชิกทั้งหมู่บ้านกว่า 100 คน เริ่มเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้เพาะปลูกในฤดูกาลต่อไป เพราะถ้าไปซื้อในท้องตลาดสู้ราคาจะแพงถึงตันละ 2 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าแพงมากชาวนาสู้ไม่ไหว อีกทั้งยังไม่ได้พันธุ์ข้าวอย่างดีเหมือนกับที่ทำเองด้วยมือของชาวนาเอง
ทั้งนี้ หลังจากที่มีพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทำให้ชาวนาเกิดจิตสำนึกในการทำการเกษตรกรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงมากขึ้นอีกด้วย
