ฉะเชิงเทรา - บ้านเรือนชาวแปดริ้วยับเยินอีกรอบ หลังถูกพายุหมุนลูกใหม่พัดกระหน่ำใส่ซ้ำเติมต่อเนื่องรอบสอง ทำหลังคาบ้านปลิวหายกันทั่วหน้าอีกหลายร้อยหลัง ต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้านเรือนทรัพย์สินเสียหายยับ ขณะหน่วยงานรัฐยังเข้าไม่ถึงพื้นที่
วันนี้(19 เม.ย.) เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านในเขตพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ และ อ.เมืองฉะเชิงเทรา รวมทั้งพื้นที่ตามแนวตะเข็บรอยต่อจังหวัดสมุทรปราการว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (18 เม.ย.51) เวลาประมาณ 19.00 น.ได้เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำซ้ำเติมเป็นรอบที่สองต่อจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 เม.ย. ทำให้หลังคาบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหลายร้อยหลังคาเรือน ต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้านเรือนชาวบ้าน รวมทั้งรถยนต์ รถจักยานยนต์ได้รับความเสียหาย
นางสมศรี มั่นคง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.6 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ได้เกิดลมพายุหมุนกระโชกอย่างแรงพัดกระหน่ำใส่ตัวบ้านจนสั่นสะเทือนไปทั้งหลัง พร้อมกับมีสายฝนโปรยปรายสาดลงมาใส่ข้าวของภายในบ้านจนเปียกแฉะไปหมด ที่หลับนอนเปียกชื้นจนนอนไม่ได้ จากนั้นลมได้พัดกระชากหลังคาบ้านซึ่งเป็นสังกะสีปลิวหลุดหายไปจำนวนหลายแผ่น ขณะเกิดเหตุรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก พายุที่เกิดขึ้นน่าสะพรึงกลัวอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ขณะที่ นางอรุณี แสงรัศมี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/3 ม.8 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ลมพายุพัดมาแรงมาก เข้ามาเป็นลูกๆ เพียงสามครั้งก็ยกหลังคาบ้านหายไปหมดทั้งหลัง ซึ่งคาดว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ต้องใช้เงินในการซ่อมแซมมากถึงกว่าหนึ่งแสนบาท หลังเกิดเหตุได้มี นายก อบต. และ ส.ส.พื้นที่ เข้ามาดูความเสียหายแล้ว ส่วนทางจังหวัดยังไม่ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือ
ด้านนายสำเนียง พิทักรักษา อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.1 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะเกิดพายุพัดมาอย่างรุนแรงตนอยู่ด้านนอกของตัวบ้าน จึงได้หมอบคลานติดกับพื้น และเมื่อพายุเริ่มพัดเบาชะลอตัวลง จึงได้รีบวิ่งขึ้นบ้าน เข้าไปบอกลูกหลานให้หมอบคลานติดกับพื้น และให้อยู่เหนือลมไว้ จากนั้นลมพายุได้พัดกระชากโถมเข้าใส่ต้นไม้ใหญ่ข้างบ้านจนหักโค่นล้มลงมาทับโรงรถจนพังเสียหายยับเยิน รถยนต์ และรถจักยานยนต์ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน