โค้งสุดท้ายเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ ใบปลิวถล่มกันเละ

อุบลราชธานี - โค้งสุดท้ายเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาจังหวัดอุบลราชธานี มือมืดเปิดยุทธการใบปลิวแฉพฤติกรรมฝ่ายตรงข้าม ทั้งเรื่องส่วนตัวและการทุจริตในหน้าที่ ประธาน กกต.ชี้ไม่ผิด เพราะเป็นเอกสารสาธารณะ ด้านประชาชนระบุใบปลิวมีพัฒนาที่ดีเลิกใช้คำหยาบ ชี้เป็นประโยชน์กับผู้อ่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาจังหวัดอุบลราชธานี เริ่มเข้มข้นดุเดือดรับโค้งสุดท้าย โดยผู้สมัครแต่ละฝ่ายใช้ยุทธการโปรยใบปลิวแฉพฤติกรรมส่วนตัว และการทุจริตระหว่างดำรงตำแหน่ง ซึ่งสามารถพบเห็นใบปลิวที่มีหลายชุดตามท้องถนนทั่วทั้งจังหวัด และเป็นประโยชน์ต่อผู้มีสิทธิลงคะแนน เพราะได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่ถูกปกปิดมานาน

ใบปลิวที่พบเห็นมีทั้งการ์ตูนล้อเลียนผู้สมัครรายหนึ่ง สื่อถึงพฤติกรรมผู้สมัครว่าเป็นนักเลงหัวไม้ชอบหาเรื่องทะเลาะวิวาทจนถูกดำเนินคดี แต่ศาลตัดสินยกฟ้องเมื่อ 17 ปีก่อน ส่วนใบปลิวอีกชุดเป็นการขยายความของสื่อสิ่งพิมพ์ส่วนกลาง ที่นำเสนอข่าวกระทรวงมหาดไทย ส่งกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการจัดซื้อหนังสือเรียนให้นักเรียนโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี

รวมทั้งโครงการเช่ายานพาหนะมาใช้ในกิจกรรมหลายรูปแบบขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งมีการร้องเรียนว่า การทำสัญญาเช่ารถเสียเปรียบเอกชน เพราะราคาเช่าแพงกว่าการซื้อถึงเกือบเท่าตัว และบริษัทที่ให้เช่ารถมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับผู้เช่า ทำให้ราชการเสียประโยชน์ในสัญญาเช่าที่มีมูลค่าทางสัญญาสูงกว่า 300 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังยุทธการโปรยใบปลิวโจมตีระหว่างผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ต่อมาเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.วารินชำราบ ได้จับกุมตัวนายอ่อนศรี หงส์ศรีเมือง อายุ 22 ปี และนายเชิดชาย ธวัสกุล อายุ 24 ปี ราษฎรอำเภอวารินชำราบ ขณะกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์โปรยใบปลิวที่ถ่ายสำเนา การเสนอข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับที่เสนอข่าวการสอบสวนทุจริตในองค์การบริหารส่วนจังหวัดในภาคอีสาน และจังหวัดอุบลราชธานี จึงควบคุมตัวไปให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ

แต่ไม่สามารถดำเนินคดีได้ เพราะเป็นการนำข้อความที่ตีพิมพ์อย่างเปิดเผยของสื่อสิ่งพิมพ์รายวันมาเผยแพร่ โดยไม่ได้มีข้อความให้ร้ายผู้หนึ่งผู้ใด แต่เป็นการรายงานข่าวความเคลื่อนไหวที่คณะกรรมการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทยมีความเห็นหลังจากตรวจสอบเอกสารที่มีอยู่เป็นระยะ

กรณีที่เกิดขึ้นนายพรชัย โควสุรัตน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่หมดวาระดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา และเป็นผู้สมัครหมายเลข 2 ได้แถลงข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มีมือมืดนำใบปลิวเถื่อนโจมตีตนทั่วเมืองจำนวนเป็นหมื่นแผ่น โดยมีข้อความโจมตีการทำงานของตนในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายก อบจ. ตนขอประณามเป็นการเล่นการเมืองสกปรกไม่สร้างสรรค์เป็นการเมืองยุคโบราณ เพราะมีการดำเนินการในลักษณะเดียวกันในหลายอำเภอ โดยเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่สามารถเอาผิดกับคนทำได้ ส่วนข้อความโจมตียืนยันว่าไม่เป็นความจริง

ด้าน นายกานต์ กัลป์ตินันท์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายสมัย กล่าวว่า ตนเป็นประธานสภาและเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายสมัยนับสิบปี ไม่เคยถูกสอบเรื่องการทำทุจริตระหว่างดำรงตำแหน่งแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อมีนโยบายจะทำอะไรให้ประชาชนก็จะทำตามที่รับปากไว้ทุกเรื่อง และไม่ชอบเล่นการเมืองนอกกฎกติกา เมื่อแพ้ก็ยอมรับไม่เคยร้องขอความเห็นใจจากใคร แม้จะรู้ว่าครั้งที่แล้วแพ้เพราะอะไร

ประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีรายหนึ่ง กล่าวถึงสงครามใบปลิวการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ว่า เป็นเรื่องปกติพบเห็นได้ในการเลือกตั้งที่มีการต่อสู้กันรุนแรง แต่ใบปลิวยุคนี้มีวิวัฒนาการจากอดีต ซึ่งนิยมใช้เขียนข้อความโจมตีด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกิดประโยชน์ แต่ใบปลิวยุคใหม่ใช้วิธีอ้างอิงข้อความจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ทำให้ใบปลิวได้รับความเชื่อถือจากผู้อ่าน

เป็นผลดีกับประชาชนจะได้ทราบข้อมูลบางด้านที่ไม่เคยทราบมาก่อน การทำปลิวยุคนี้ จึงเป็นการขยายความแทนใช้ถ้อยคำโจมตีเหมือนในอดีต ส่วนผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เป็นดุจพินิจของผู้อ่านเอง

ขณะที่ นายมนไท ประมูลจักโก ประธาน กกต.กล่าวว่า มีผู้สมัครนำใบปลิวมาร้องเรียนกับ กกต. แต่ไม่เข้าข่ายกระทำผิดเลือกตั้ง เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันใครเป็นผู้ทำ และใบปลิวเป็นการถ่ายเอกสารการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน เป็นเอกสารที่กระทำอย่างเปิดเผยสาธารณะชนสามารถรับรู้ได้โดยทั่วไป ส่วนการทำลายป้ายหาเสียงที่มีการร้องเรียนถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูล หากหลักฐานสามารถโยงไปถึงผู้กระทำจะถูกจับดำเนินคดีฐานทำให้เสียทรัพย์และมีเจตนาขัดขวางการเลือกตั้ง