พิจิตร – เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวเมืองชาละวันเฮ ! รับกระแสภาวะปุ๋ยเคมีแพงสุดกู่ ทำให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยคอกมากขึ้น ส่งผลให้ขี้วัวขายดิบขายดี จนต้องสั่งจองล่วงหน้าข้ามปีกันแล้ว
นางทองใส สีลาพล อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 ตำบลวังทรายพูน อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ซึ่งประกอบอาชีพเลี้ยงวัวเนื้อพันธุ์พื้นเมืองจำนวน 60 ตัว เปิดเผยว่า จากสภาวะที่ข้าวเปลือกปรับราคาขึ้นสูงและเกษตรกรที่เป็นชาวนาอยู่ในพื้นที่ชลประทาน สามารถทำนาปรังได้ต่างหันมาทำนากันในหลายพื้นที่ คาดว่าเฉพาะจังหวัดพิจิตร มีการทำนาปรังมากกว่า 3 แสนไร่ จึงทำให้มีความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยชีวภาพต่างๆเป็นจำนวนมาก ทำให้ร้านจำหน่ายปุ๋ยในท้องถิ่น พากันปรับราคาขึ้นแข่งกับราคาข้าวเปลือกที่สูงขึ้นเช่นกัน
ทำให้เกษตรกรที่ทำนาปรังบางส่วน หันมาใช้ปุ๋ยขี้วัวเป็นทางเลือกใหม่ในการลดต้นทุน โดยนางทองใสยอมรับว่า ขี้วัวที่ตนเลี้ยงเอาไว้ขายดีมาก โดยตากขี้วัวให้แห้งแล้วบรรจุในกระสอบปุ๋ยขายกระสอบละ 15 บาท ซึ่งขณะนี้ใครที่อยากได้ต้องสั่งจองกันล่วงหน้า อีกทั้งมีชาวนาจากต่างถิ่นมาวางมัดจำ จองซื้อขี้วัวไว้ข้ามปีกันอีกด้วย เพราะเกรงว่าขี้วัวจะขึ้นราคา เนื่องจากชาวนาและผู้ปลูกผักสวนครัวจำหน่ายต่างมาแย่งกันเอาไปทำปุ๋ย จนต้องมีการเขียนป้ายประกาศ “จองแล้ว อย่าเอา” ติดไว้
"จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้เกษตรกรที่เลี้ยงวัวเลี้ยงควายเองก็มีน้อยลง รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่ทำให้ขาดแคลนหญ้า จึงทำให้ราคาขี้วัวขยับสูงขึ้นตามไปด้วยและมีแนวโน้มว่าอาจจะขึ้นอีกกระสอบละ 5 บาทในเร็ววันนี้"