อุตรดิตถ์-จังหวัดอุตรดิตถ์เร่งช่วยเหลือและแจกจ่ายน้ำแล้ว 2 ล้านลิตร พบประสบภัยแล้ง 8 อำเภอ 317 หมู่บ้าน
นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้จังหวัดได้ทำการสำรวจ พบว่าจังหวัดอุตรดิตถ์มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 8 อำเภอ 317 หมู่บ้าน 40,709 ครัวเรือน โดยในขั้นต้นจังหวัดได้ให้การช่วยเหลือด้านการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภค – บริโภค แล้วประมาณ 2 ล้านลิตร
ทั้งนี้จังหวัดยังได้มีการกำหนดพื้นที่รับผิดชอบในการสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้ และเครื่องจักรกล เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยมีเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 10 เครื่อง , ขนาด 6 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง และรถบรรทุกน้ำ 53 คัน
สำหรับการช่วยเหลือดังกล่าว ซึ่งผู้ประสบภัยสามารถร้องขอการช่วยเหลือได้ที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทุกอำเภอ นอกจากนี้ยังเตือนให้เกษตรกรที่จะทำนาปรังในระยะเวลา ดังกล่าว ฯ พิจารณาให้รอบคอบก่อน เพราะอาจจะทำให้พืชผลเสียหายได้ “ตอนนี้จังหวัดเร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้งไปแล้วซึ่งคาดว่าในปีนี้ปัญหาภัยแล้งจะมีความรุนแรงมาก”
ด้านนายบารมี หงส์ลำพอง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ เปิดเผยถึง สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในปัจจุบัน ที่ทำให้ปีนี้มีความร้อนที่รุนแรงที่สุดมากกว่าปีที่ผ่านมา ๆ มา เป็นผลทำให้อัตราการระเหยของน้ำเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีปริมาณมาก ปริมาตรของน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำต่าง ๆ ได้ลดลง เพื่อกักเก็บน้ำที่ยังคงเหลืออยู่ไว้ใช้เพื่อปริโภค-บริโภคในช่วงหน้าแล้ง และ น้ำอีกส่วนหนึ่งต้องสำรองไว้สำหรับต้นฤดูฝนที่จะมาถึง
ดังนั้น จึงขอเตือนให้เกษตรกรที่จะทำการเพาะปลูกในช่วงหน้าแล้งว่า ควรสำรวจแหล่งน้ำในพื้นที่ก่อน และ ให้ระงับการทำนาปรังโดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดการขาดแคลนน้ำ และ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันราคาข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้น เกษตรกรหลายรายเร่งทำนาปรัง ประกอบกับชลประทานอุตรดิตถ์จะยุติการปล่อยน้ำในระหว่างสิ้นเดือนเมษายน 2551 นี้
นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้จังหวัดได้ทำการสำรวจ พบว่าจังหวัดอุตรดิตถ์มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 8 อำเภอ 317 หมู่บ้าน 40,709 ครัวเรือน โดยในขั้นต้นจังหวัดได้ให้การช่วยเหลือด้านการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภค – บริโภค แล้วประมาณ 2 ล้านลิตร
ทั้งนี้จังหวัดยังได้มีการกำหนดพื้นที่รับผิดชอบในการสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้ และเครื่องจักรกล เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยมีเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 10 เครื่อง , ขนาด 6 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง และรถบรรทุกน้ำ 53 คัน
สำหรับการช่วยเหลือดังกล่าว ซึ่งผู้ประสบภัยสามารถร้องขอการช่วยเหลือได้ที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทุกอำเภอ นอกจากนี้ยังเตือนให้เกษตรกรที่จะทำนาปรังในระยะเวลา ดังกล่าว ฯ พิจารณาให้รอบคอบก่อน เพราะอาจจะทำให้พืชผลเสียหายได้ “ตอนนี้จังหวัดเร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้งไปแล้วซึ่งคาดว่าในปีนี้ปัญหาภัยแล้งจะมีความรุนแรงมาก”
ด้านนายบารมี หงส์ลำพอง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ เปิดเผยถึง สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในปัจจุบัน ที่ทำให้ปีนี้มีความร้อนที่รุนแรงที่สุดมากกว่าปีที่ผ่านมา ๆ มา เป็นผลทำให้อัตราการระเหยของน้ำเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีปริมาณมาก ปริมาตรของน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำต่าง ๆ ได้ลดลง เพื่อกักเก็บน้ำที่ยังคงเหลืออยู่ไว้ใช้เพื่อปริโภค-บริโภคในช่วงหน้าแล้ง และ น้ำอีกส่วนหนึ่งต้องสำรองไว้สำหรับต้นฤดูฝนที่จะมาถึง
ดังนั้น จึงขอเตือนให้เกษตรกรที่จะทำการเพาะปลูกในช่วงหน้าแล้งว่า ควรสำรวจแหล่งน้ำในพื้นที่ก่อน และ ให้ระงับการทำนาปรังโดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดการขาดแคลนน้ำ และ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันราคาข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้น เกษตรกรหลายรายเร่งทำนาปรัง ประกอบกับชลประทานอุตรดิตถ์จะยุติการปล่อยน้ำในระหว่างสิ้นเดือนเมษายน 2551 นี้
