ศูนย์ข่าวศรีราชา – พิษเศรษฐกิจและภาวะเลิกจ้างงาน ในปี 2550 ไม่กระทบยอดจัดเก็บเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของจังหวัดชลบุรี ที่มีไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทต่อเดือน ปี 2551 คาดจะสูงกว่า 3.6 พันล้านบาท จากปัจจัยเสริมด้านนโยบายส่งเสริมการลงทุนของจังหวัดทั้งการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ขยายถนนและการขนส่งระบบราง ที่จะสามารถจูงใจนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนจนเกิดการจ้างงานมากขึ้น
นายสรสิช ลอยกุลนันท์ ประกันสังคมจังหวัดชลบุรี เผยถึงยอดการจัดเก็บเงินสมทบกองทุนประกันสังคมจังหวัดชลบุรีในปี 2550 ว่ามีจำนวนมากถึง 3.6 พันล้านบาท ซึ่งโดยเฉลี่ยแต่ละเดือนจะมียอดการจัดเก็บเงินสมทบกองทุนประกันสังคมทั้งในส่วนลูกจ้างสถานประกอบการต่างๆ ที่มีมากกว่า 5แสนคนและเจ้าของกิจการที่มีจำนวน 1.4 หมื่นแห่ง ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทต่อเดือน
ในปี 2550 แม้ประเทศไทยจะมีปัญหาทางเศรษฐกิจ จนส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างในสถานประกอบการบางแห่ง รวมทั้งการปิดกิจการของสถานประกอบการรายย่อยในจังหวัดชลบุรี แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อกลุ่มลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง เพราะในช่วงเวลาเดียวกันก็มีการลงทุนใหม่ ซึ่งถึงแม้จะไม่มากเหมือนในช่วงหลายปีก่อน แต่ก็ทำให้แรงงานที่ถูกเลิกจ้างสามารถถ่ายเทไปสู่สถานประกอบการใหม่จนมีรายได้เลี้ยงตนเองได้
“แม้ในปี 2550 จะมีสถานประกอบการที่เลิกจ้างไปบ้าง แต่ก็ไม่มีแรงงานรายใดที่ตกงานนาน จะมีก็เพียงหันไปทำงานของตัวเอง เพราะแม้ภาวะเศรษฐกิจหรือการลงทุนของจังหวัดจะอยู่ในช่วงชะลอตัวแต่ก็ยังมีการลงทุนใหม่ รวมทั้งการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาติ ทำให้แรงงานเหล่านี้เข้าไปทำงานได้ ดังนั้นการจัดเก็บเงินสมทบกองทุนจึงไม่มีปัญหา แต่ส่วนที่เจอก็คือปัญหานายจ้างเหนียวหนี้ ไม่ยอมจ่ายเงินสมทบเราก็ต้องบอกไปว่ากรณีไม่จ่ายเงินสมทบ ผู้ว่าจ้างจะถูกปรับ 2% หรือในกลุ่มที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจจริงๆ แล้วเข้ามาคุยเราก็ให้ผ่อนชำระได้”
ในปี 2550 จังหวัดชลบุรีมีสถานประกอบการ ที่ค้างชำระเงินสมทบกองทุนกว่า 900 แห่ง จาก 1.4 หมื่นแห่ง คิดเป็นเงินหลายร้อยล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาดย่อย และขณะนี้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี ได้เชิญเจ้าของกิจการเหล่านั้นเข้ามาพูดคุยเพื่อสอบถามปัญหาและพิจารณาขีดความสามารถในการผ่อนชำระแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 สำนักงานประกันสังคม ยังจับตาโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติเป็นกรณีพิเศษ เพราะในปีที่ผ่านมานักลงทุนกลุ่มนี้มีการลอยแพพนักงานมากที่สุด และเกรงว่า ในปีนี้จะมีการย้ายฐานผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงถูกกว่า และหากพบว่าสถานประกอบการใดมีพฤติกรรมเข้าข่ายที่จะลอยแพ พนักงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็จะเข้าไปพูดคุย เพื่อหาทางแก้ไขและจูงใจให้สถานประกอบการนั้นดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไป
สำหรับในปี 2551 คาดว่า การจัดเก็บเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของจังหวัดชลบุรีจะสูงกว่าปีก่อน จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนของจังหวัดทั้งด้านการพัฒนาเส้นทาง ระบบขนส่งสินค้าทางรางและระบบสาธารณูปโภค ที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนจนก่อให้เกิดการจ้างงานอีกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคมจังหวัด ก็ยังคงตรวจสอบสถานพยาบาลต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับงานบริการและการดูแลที่ยุติธรรมที่สุด