กาฬสินธุ์ - ผบก.กาฬสินธุ์ ระบุในพื้นที่กาฬสินธุ์มีการระบาดของยาบ้าเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 98 ขณะที่การจับกุมผู้ต้องหาคดียาบ้ามีจำนวนมากที่สุดและรองลงมา คือ กัญชา กำชับ 23 สภ.เข้มงวดปิดตรวจค้นชุมชนหมู่บ้านเป้าหมายพร้อมสกัดการนำยาเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก
ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สรุปสถิติการจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่ทั้ง 23 ซึ่งสถานการณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์นับว่าน่าเป็นห่วง เนื่องจากผลของการจับกุมนับจากวันที่ 1 ตุลาคม 2550- วันที่ 15 มีนาคม 2551 ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติดแล้วกว่า 529 ราย
โดยยาเสพติดประเภทยาบ้ามีการจับกุมสูงถึง 258 ราย รองลงมา คือ กัญชาจำนวน 155 ราย และเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2549-2550 พบว่า การจับกุมได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 98 นอกเหนือจากการจับกุมผู้ต้องหาแล้วในส่วนของกลางยังพบว่าประเภทของยาบ้ามีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและระหว่างที่มีการจัดการเลือกตั้งซึ่งในไตรมาสแรกมีการจับยาบ้าได้แล้วกว่า 6,500 เม็ด
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การดำเนินการป้องกันและปราบปรามคงจะมุ่งเน้นไปที่การสกัดยาบ้าตามแนวตะเข็บชายแดน เพราะในตอนนี้ยาบ้าขณะนี้ได้ถูกนำเข้ามาจากทางประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น ทั้งทางด้าน จ.อุดรธานี สกลนคร มุกดาหาร และแถบเส้นทางอีสานใต้ ซึ่งกาฬสินธุ์ยังเป็นพื้นที่ทางผ่านของยาบ้า แต่ยังไม่เป็นจุดพักยา โดยยาบ้าที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านจะมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพมหานคร
ส่วนในด้านการกวาดล้างได้มีการจัดระเบียบของหอพัก อพาร์ตเมนต์ ที่ขณะนี้กลุ่มพ่อค้ายาบ้าได้ใช้เป็นแหล่งพักยาและเป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น นอกจากนี้ ยังได้มีการขึ้นบัญชีดำและทำประวัติผู้ที่เคยถูกจับกุมในคดียาบ้าทั้งที่อยู่ในระหว่างการประกันตัวสู้คดี ผู้ที่พ้นโทษออกจากเรือนจำ รวมถึงผู้ต้องหาในเรือนจำ
นอกจากนี้ ยังจะเน้นไปที่การหาข่าว การตั้งด่านสกัดตรวจค้น พร้อมกันนี้ ยังจะได้มีการประสานไปยังองค์กรภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันวางแนวป้องกันยาเสพติดเป็นเครือข่ายภาคประชาชนโดยเน้นการดำเนินการตามโครงการรวมพลังประชาไทย พ้นภัยยาเสพติดของกระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก
ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สรุปสถิติการจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่ทั้ง 23 ซึ่งสถานการณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์นับว่าน่าเป็นห่วง เนื่องจากผลของการจับกุมนับจากวันที่ 1 ตุลาคม 2550- วันที่ 15 มีนาคม 2551 ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติดแล้วกว่า 529 ราย
โดยยาเสพติดประเภทยาบ้ามีการจับกุมสูงถึง 258 ราย รองลงมา คือ กัญชาจำนวน 155 ราย และเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2549-2550 พบว่า การจับกุมได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 98 นอกเหนือจากการจับกุมผู้ต้องหาแล้วในส่วนของกลางยังพบว่าประเภทของยาบ้ามีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและระหว่างที่มีการจัดการเลือกตั้งซึ่งในไตรมาสแรกมีการจับยาบ้าได้แล้วกว่า 6,500 เม็ด
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การดำเนินการป้องกันและปราบปรามคงจะมุ่งเน้นไปที่การสกัดยาบ้าตามแนวตะเข็บชายแดน เพราะในตอนนี้ยาบ้าขณะนี้ได้ถูกนำเข้ามาจากทางประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น ทั้งทางด้าน จ.อุดรธานี สกลนคร มุกดาหาร และแถบเส้นทางอีสานใต้ ซึ่งกาฬสินธุ์ยังเป็นพื้นที่ทางผ่านของยาบ้า แต่ยังไม่เป็นจุดพักยา โดยยาบ้าที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านจะมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพมหานคร
ส่วนในด้านการกวาดล้างได้มีการจัดระเบียบของหอพัก อพาร์ตเมนต์ ที่ขณะนี้กลุ่มพ่อค้ายาบ้าได้ใช้เป็นแหล่งพักยาและเป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น นอกจากนี้ ยังได้มีการขึ้นบัญชีดำและทำประวัติผู้ที่เคยถูกจับกุมในคดียาบ้าทั้งที่อยู่ในระหว่างการประกันตัวสู้คดี ผู้ที่พ้นโทษออกจากเรือนจำ รวมถึงผู้ต้องหาในเรือนจำ
นอกจากนี้ ยังจะเน้นไปที่การหาข่าว การตั้งด่านสกัดตรวจค้น พร้อมกันนี้ ยังจะได้มีการประสานไปยังองค์กรภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันวางแนวป้องกันยาเสพติดเป็นเครือข่ายภาคประชาชนโดยเน้นการดำเนินการตามโครงการรวมพลังประชาไทย พ้นภัยยาเสพติดของกระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก