xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านคลองตะเคียนทำบุญอุทิศส่วนกุศลรำลึก"พลายเป๋"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านคลองตะเคียน ทำบุญเลี้ยงพระถวายสังฆทานอุทิศส่วนกุศลรำลึกถึงพลายเป๋ ที่เสียชีวิต หลังถูกเคลื่อนย้ายไปทำการรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้ายังศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง หลายคนยังระลึกถึง เชื่อถ้าให้ชาวบ้านดูแลเองน่าจะยังมีชีวิต

วันนี้(29 มี.ค.51)ชาวบ้านหมู่บ้านคลองตะเคียน ม.13 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะชิงเทรา ได้ประกอบพิธีทางศาสนาทำบุญเลี้ยงเพลพระสงฆ์ จำนวน 4 รูป ถวายสังฆทานอุทิศส่วนกุศลรำลึกถึงช้างพลายเป๋ หรือพลายสามพราน ยังบริเวณบ้านเขาวงศ์ เขตรอยต่อป่ากันชนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างอ่างฤาไน จุดที่เจ้าหน้าที่นำช้างพลายสามพราน อายุ 7 ปี ขึ้นรถบรรทุก 10 ล้อ เดินทางไปรักษาอาการบาดเจ็บยังศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.51 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พลายสามพรานถูกบ่วงแร้วนายพรานที่ข้อเท้าหน้าขวา จนข้อเท้าบวมอักเสบกลัดหนอง และมีเนื้องอกจนมีขนาดใหญ่โตผิดรูปตั้งแต่ปี 49 แต่หลังจากพลายเป๋ถูกนำไปรักษาที่ลำปางได้เพียง 15 วันก็ล้มลง ในวันที่ 21 มี.ค.51 เวลาประมาณ 01.00 น.

นายบุญชู สุวรรณโชติ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193 ม.13 ต.ท่าตะเกียบ ชาวบ้านหมู่บ้านคลองตะเคียน ผู้ที่เคยช่วยเหลือให้การดูแลช้างพลายบาดเจ็บดังกล่าวตั้งแต่ต้น กล่าวว่า การทำบุญในวันนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้าน และบ้านใกล้เคียง ได้พร้อมใจกันนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูป โดยต่างคนต่างนำอาหารใส่ปิ่นโตมาทำบุญถวายเพลพระ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ช้างพลายเป๋ผู้น่าสงสาร ที่จากไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ

พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งศาลช้างพลายเป๋ หรือพลายสามพรานขึ้นไว้ในจุดที่ส่งเขาขึ้นรถไป เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสิ่งเตือนใจ และรำลึกถึงความผูกพันของช้างป่ากับชาวบ้านที่ได้อยู่ร่วมกันมาอย่างรักใคร่มีความผูกพันกัน ซึ่งก่อนหน้านี้หลังมีการเคลื่อนย้ายช้างพลายเป๋ไปแล้วชาวบ้านต่างพากันดีใจที่ช้างจะได้รับการรักษาให้หายจากความทุกข์ทรมาน จึงได้พากันจัดเตรียมรถ ซ่อมรถเปลี่ยนเบรกเปลี่ยนยางใหม่ หมดเงินไปคนละนับหมื่นบาท เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี เพื่อเตรียมที่จะเดินทางไปเยี่ยมช้างพลายเป๋ยังที่จังหวัดลำปาง แต่ก็ยังไม่ทันไรเลย หลังนำไปรักษาได้เพียงไม่กี่วันพลายเป๋ก็เสียชีวิตลงแล้ว

หลังจากนี้ไปชาวบ้านจะได้รวบรวมเงินกัน เพื่อก่อสร้างรูปปั้นช้างพลายเป๋ขนาดเท่ากับตัวจริงไว้ในที่แห่งนี้ด้วย เพื่อให้ชาวบ้านระลึกถึง และเป็นอนุสรณ์สถาน อุทาหรแก่เจ้าหน้าที่ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับสัตว์ป่าขึ้นในลักษณะเช่นเดียวกันนี้อีก จะได้เร่งรีบนำไปทำการรักษาให้เร็วกว่านี้

ขณะที่นายอ่วม ศรีน้ำคำ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/1 ม.5 ต.ท่าตะเกียบ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าหากไม่นำพลายเป๋ส่งไปรักษาก็คงยังไม่ตาย ป่านนี้ชาวบ้านก็ยังคงวิ่งไล่ตามหา เพื่อนำอาหารไปป้อนให้ จึงเชื่อว่าสาเหตุการตายของช้างพลายเป๋ ก็คงเป็นเพราะเขาตรอมใจตาย เพราะไปผิดที่ ผิดทาง และคิดถึงพวกเรา เหมือนอย่างที่เราคิดถึงเขาเช่นเดียวกัน พวกเราคิดถึงเขาอยากให้เขาไปสบายจึงได้ทำบุญไปหาเขา

หากเขายังมีชีวิตอยู่ หรือรักษาให้หายได้ พวกเราจะเดินทางไปเยี่ยมเขาอย่างแน่นอน ใจจริงก็ไม่อยากให้เอาเขาไป แต่ก็อยากให้เขามีอายุยืนนานกว่านี้ เพื่อเอาไว้ให้ลูกหลานได้ดู เจ้าหน้าที่มาเอาไปรักษาก็อยากให้เขาหาย แต่เมื่อเอาเขาไปแล้วตายจึงทำให้ชาวบ้านเสียความรู้สึก และเสียใจเป็นอย่างมาก หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เขาได้มาเกิดอยู่กับพวกเราอีก นายอ่วม กล่าวทั้งน้ำตาซึม

ด้าน นางสง่า เงินทอง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 ม.13 ต.ท่าตะเกียบ กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านในหมู่บ้านเกือบทั้งหมู่บ้าน ต่างสงสารช้างพลายเป๋กันทั้งนั้น ทั้งที่เขาก็ซุกซน ชอบถอนต้นไม้กล้ายางพารา ต้นมันสำปะหลังมาเล่นบ้าง เดินตามรอยไถไล่ตามเก็บหัวมันชาวบ้านกินบ้าง แต่ก็เพียงเล็กน้อยชาวบ้านก็ให้เขากิน เพราะเขาไม่ทำร้ายคน รวมทั้งยังรู้เรื่องภาษาคน จึงได้ตัดต้นกล้วย มะละกอ และหญ้าให้เขากินด้วย หลังเขาตายไปแล้ว ชาวบ้านก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่ทำบุญไปให้เขา และจะทำบุญให้อย่างนี้ในทุกๆ ปี ที่ครบรอบวันที่เขาจากไป นางสง่า กล่าวพรางน้ำตาไหลพราก




กำลังโหลดความคิดเห็น