แล้งหนักปลาตายเกลื่อนแม่น้ำเลย

เลย- แล้งหนัก ปลาตายเกลื่อนแม่น้ำเลย ผู้ว่าฯสั่งตั้งคณะทำงานฟื้นฟูแม่น้ำเลย ควบคุมคุณภาพน้ำ เฉพาะหน้าใช้สารอีเอ็มแห้ง โยนลงในน้ำตามจุดที่เน่าเสียและต้องรื้อฝายกั้นน้ำบางจุดทิ้ง เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก

ที่ห้องประชุม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเลย นายมานิตย์ มกรพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และฟื้นฟูคุณภาพแม่น้ำเลย หลังพบว่าผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้แม่น้ำเลยลดระดับลงอย่างรวดเร็ว จนคุณภาพเริ่มเน่าเสีย มีปลาขนาดเล็กลอยขึ้นมาตายเป็นจำนวนมาก

นายมานิตย์ กล่าวว่า เหตุที่ทำให้แม่น้ำเลยเน่าเสีย จนเข้าขั้นวิกฤตในขณะนี้นั้น เพราะสภาพอากาศที่ร้อนแห้งแล้ง มีการปล่อยน้ำเสีย และสิ่งปฏิกูลจากบ้านเรือนประชาชน ซึ่งแม่น้ำเลยไหลผ่านชุมชนใหญ่ 2 แห่งคือ เทศบาลตำบลวังสะพุง และเทศบาลเมืองเลย โดยไม่มีการบำบัด

ประกอบกับเป็นช่วงหน้าแล้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ยังมีเขื่อนหินทิ้งกั้นน้ำเป็นระยะๆ ทำให้น้ำนิ่ง ออกซิเจนในน้ำจึงไม่มีพอให้ปลามีชีวิตอยู่ได้ ซึ่งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะเข้าไปฟื้นฟูคุณภาพน้ำอย่างจริงจัง โดยตรวจหาสารพิษปนเปื้อนด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อหาวิธีการแก้ไขอย่างถูกต้องและยั่งยืนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกนี้จะใช้สารอีเอ็มแห้ง ที่มีลักษณะเป็นก้อนกลม โยนลงในน้ำตามจุดที่เน่าเสียในเบื้องต้นก่อน และอาจจะต้องรื้อฝายกั้นน้ำบางจุดทิ้ง เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก นอกจากนี้ ยังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายเอาผิดกับผู้ที่ปล่อยน้ำเสียหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำอย่างเด็ดขาดด้วย

ทั้งนี้ เมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 9 อุดรธานี ได้รายงานผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำในแม่น้ำเลย พบว่ามีเชื้อแบคทีเรียโคลีฟอร์มปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานกว่า 100,000 หน่วยวัด ซึ่งเชื้อโรคชนิดนี้เกิดจากมูลสัตว์ และอุจาระของคน โดยเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไวรัสตับอักเสบเอ