มหาสารคาม - หลายหน่วยงานออกเตือนความปลอดภัยของเด็กในช่วงปิดเรียน โดยเฉพาะการลงเล่นน้ำ ขณะที่เด็กอีกหลายรายจับกลุ่มออกล่ากิ้งก่าหารายได้ในช่วงปิดเรียน
นายสมพงษ์ เข็มเล็ก ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สภาพทั่วไปในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม อากาศร้อนอบอ้าว เกือบทะลุ 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ประชาชนต้องหาวิธีการคลายร้อนหลากหลายรูปแบบ ด้วยการลงเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงตามสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดบริเวณให้มีสถานที่เล่นน้ำ คืออ่างเก็บน้ำโคกก่อ หาดเจ้าสำราญ
รวมทั้งสถานที่เอกชนที่สร้างขึ้นบริเวณหาดริมน้ำชีอีกหลายแห่ง ซึ่งระยะนี้มักปรากฏเป็นข่าวในหลายพื้นที่ กรณีเด็กเล่นน้ำและจมน้ำเสียชีวิตหมู่ จึงขอฝากเตือนผู้ปกครองให้ระมัดระวังบุตรหลาน ไม่ควรปล่อยไว้ที่บ้านหรือปล่อยให้ลงเล่นน้ำตามลำพัง เนื่องจากระยะนี้อยู่ในช่วงปิดภาคเรียนที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของเด็กได้ หากมีธุระจำเป็นควรฝากญาติพี่น้องให้ดูแล
ขณะที่มีเด็กอีกหลายรายในเขตตำบลแวงน่าง อำเภอเมืองมหาสารคาม จับกลุ่ม 5-10 คน ออกล่ากิ้งก่า (กะปอม) ตามชายป่าใกล้หมู่บ้าน ด้วยหนังสะติ๊ก แม้ต้นไม้จะสูงแต่ด้วยประสบการณ์ทำให้แต่ละวัน กลุ่มเด็กจะสามารถจับกิ้งก่าได้ ครั้งละ 50-60 ตัว แล้วนำไปจำหน่ายราคาตัวละ 4-5 บาท สำหรับผู้นิยมรับประทานอาหารพื้นบ้าน ทำให้กลุ่มเด็กมีรายได้ไม่ต่ำกว่าครั้งละ 200-300 บาท
นับว่าเป็นการหารายได้ในช่วงปิดภาคเรียนที่อาศัยธรรมชาติ โดยไม่ต้องลงทุนอาศัยเพียงแรงกายและประสบการณ์เท่านั้นก็พอ
นายสมพงษ์ เข็มเล็ก ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สภาพทั่วไปในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม อากาศร้อนอบอ้าว เกือบทะลุ 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ประชาชนต้องหาวิธีการคลายร้อนหลากหลายรูปแบบ ด้วยการลงเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงตามสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดบริเวณให้มีสถานที่เล่นน้ำ คืออ่างเก็บน้ำโคกก่อ หาดเจ้าสำราญ
รวมทั้งสถานที่เอกชนที่สร้างขึ้นบริเวณหาดริมน้ำชีอีกหลายแห่ง ซึ่งระยะนี้มักปรากฏเป็นข่าวในหลายพื้นที่ กรณีเด็กเล่นน้ำและจมน้ำเสียชีวิตหมู่ จึงขอฝากเตือนผู้ปกครองให้ระมัดระวังบุตรหลาน ไม่ควรปล่อยไว้ที่บ้านหรือปล่อยให้ลงเล่นน้ำตามลำพัง เนื่องจากระยะนี้อยู่ในช่วงปิดภาคเรียนที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของเด็กได้ หากมีธุระจำเป็นควรฝากญาติพี่น้องให้ดูแล
ขณะที่มีเด็กอีกหลายรายในเขตตำบลแวงน่าง อำเภอเมืองมหาสารคาม จับกลุ่ม 5-10 คน ออกล่ากิ้งก่า (กะปอม) ตามชายป่าใกล้หมู่บ้าน ด้วยหนังสะติ๊ก แม้ต้นไม้จะสูงแต่ด้วยประสบการณ์ทำให้แต่ละวัน กลุ่มเด็กจะสามารถจับกิ้งก่าได้ ครั้งละ 50-60 ตัว แล้วนำไปจำหน่ายราคาตัวละ 4-5 บาท สำหรับผู้นิยมรับประทานอาหารพื้นบ้าน ทำให้กลุ่มเด็กมีรายได้ไม่ต่ำกว่าครั้งละ 200-300 บาท
นับว่าเป็นการหารายได้ในช่วงปิดภาคเรียนที่อาศัยธรรมชาติ โดยไม่ต้องลงทุนอาศัยเพียงแรงกายและประสบการณ์เท่านั้นก็พอ