ศูนย์ข่าวศรีราชา - พรรคประชาธิปัตย์ส่งอดีตข้าราชการระดับสูง ลงแข่งนายก อบจ.กับ “ตระกูลคุณปลื้ม” โดยทั้ง 2 ฝ่ายเน้นแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ การจราจร และการศึกษา
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ได้มีการเปิดรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นวันแรก โดยมีผู้เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้งพร้อม 2 ทีมใหญ่ ประกอบด้วย ทีมที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอารยะ วิวัฒน์นานิช หัวหน้าทีม และทีมเรารักชลบุรี ซึ่งมีนายวิทยา คุณปลื้ม บุตรชาย นายสมชาย คุณปลื้ม (กำนันเป๊าะ) เป็นหัวหน้าทีมและผู้ลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในครั้งนี้
การลงสมัครในครั้งนี้ ทีมเรารักชลบุรีส่งผู้สมัครลงครบทุกเขตอำเภอจำนวนทั้งสิ้น 36 คน ส่วนสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้ลงสมัครไปครบทุกเขตอำเภอ เนื่องจากขาดผู้มีความรู้ความสามารถ จึงทำให้บางเขตพื้นที่ยังไม่มีผู้สมัครในขณะนี้
สำหรับบรรยากาศในการสมัครในวันนี้เป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายมีกองเชียร์มาสมัครสนุนและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
ด้านนายวิทยา กล่าวถึงแนวนโยบายในการหาเสียงในครั้งนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าชลบุรีมีศักยภาพมากมายและมีความได้เปรียบจังหวัดอื่นๆ เช่น เป็นเมืองอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และท่องเที่ยว อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ความเจริญจากกรุงเทพฯขยายตัว ชลบุรีก็ได้รับอานิสงส์ อย่างกรณีสนามบินสุวรรณภูมิก็ส่งผลให้ชลบุรีมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงมาก จนถือได้ว่าเป็นเมืองแห่งโอกาสเลยทีเดียว
หลังที่เมืองมีความเจริญขยายตัว ปัญหาด้านแหล่งน้ำ ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมตามมา จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เมืองชลบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวเติบโตคู่อุตสาหกรรม โดยไม่ส่งผลเสียต่อภาคสังคมและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ด้านนโยบายสังคมและสาธารณสุขดังกล่าวได้แปลงเป็นรูปธรรม โดยจะส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดีถ้วนหน้า ส่งเสริม ผู้พิการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างมีระบบ รักษาวัฒนธรรมอันดีงาม รวมถึงการทำผังเมืองเพื่อคุ้มครองพื้นที่พิเศษตามธรรมชาติและวัฒนธรรม และต้องสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเปิดศูนย์อำนวยการร่วมตำรวจ ทหารและพลเรือน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ นโยบายทางด้านการศึกษาและพัฒนาตนเอง จะเน้นเรื่องการสร้างคนเป็นหลัก ประกอบด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โรงเรียนในทุกอำเภอต้องมีมาตรฐานเดียวกัน มีการเปิดสอนภาษาที่ 2 มีหลักสูตรการอบรมต่างๆ ต้องการให้สถาบันการศึกษาออกสู่สังคม ช่วยให้ประชาชนมีความรู้มากขึ้น
นายวิทยา กล่าวต่อไปอีกว่า นโยบายสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การสร้างเอกภาพให้สังคม โดยจะส่งเสริมทั้ง 3 ภาค คือ ภาครัฐ เอกชน และชุมชน มีส่วนให้การพัฒนาเมืองชล ส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนา กระจายการท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวเดิม และที่สำคัญสร้างความรู้รักสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่ ชาวชลบุรี
ด้านนายอารยะกล่าวถึงนโยบายของทีมนั้นจะเน้นวาระประชาชนเป็นหลักของพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก โดยได้มุ่งเน้น ด้านเส้นทางคมนาคมให้คล่องตัว เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น การจราจรเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีการพัฒนาให้สะดวกและรวดเร็ว ,ด้านแหล่งน้ำ , ด้านการศึกษา เพื่อให้เด็กๆ สามารถพูดได้หลายๆภาษา นอกจากนั้นด้านสุขภาพ โดยจะต้องสนับสนุนด้านนี้ด้วย เนื่องจากกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อด้านสุขภาพเช่นกัน