กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 3 อำเภอ และบริเวณเขตเทือกเขาภูพานให้เฝ้าระวังสภาพดินฟ้าอากาศอย่างใกล้ชิดหลังจังหวัดกาฬสินธุ์เกิดพายุฤดูร้อนครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี มูลค้าความเสียหายแล้วกว่า 10 ล้านบาท
นายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากรายงานของอุตุนิยมวิทยาอำเภอกมลาไสย แจ้งว่า ตลอดระยะเวลาอีก 2 วันนี้ในพื้นที่ อำเภอท่าคันโท อำเภอห้วยเม็กและอำเภอหนองกุงศรี ซึ่งเป็นพื้นที่ราบสูงจะต้องระวัง โดยเฉพาะการสังเกตสภาพดินฟ้าอากาศที่หากเป็นสีแดงและมีลมกระโชกแรงจะต้องระวังเนื่องจากอาจจะเกิดปัญหาพายุฤดูร้อนขึ้นได้
โดยเฉพาะประชาชนที่จะใช้เส้นทางการเดินทางระหว่างบริเวณเทือกเขาภูพานจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมถึงประชาชนในพื้นที่เสียงก็ควรที่จะเตรียมรับมือกับความรุนแรงของพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ด้วยการดูแลบ้านเรือนให้แข็งแกร่ง ซึ่งที่ผ่านมาการเกิดพายุฤดูร้อนในพื้นที่อำเภอหนองกุงศรีนับว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่เบื้องต้นมีมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้าน และนับว่าเป็นการเกิดพายุฤดูร้อนที่รุนแรงในรอบ 30 ปี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความรุนแรงของพายุได้ทำให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายไปกว่า 650 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังมีความเสียหายของระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าและประปาได้รับความเสียหาย ที่ยังต้องทำการซ่อมแซม
ส่วนสภาพจิตใจของประชาชนนับว่าดีขึ้นมากหลังมีทีมงานเข้าให้การช่วยเหลือ และเพื่อป้องกันปัญหามิจฉาชีพที่จะฉวยโอกาสในช่วงนี้ก็ได้สั่งการให้ ตำรวจภูธรจังหวัด จัดกำลังพลเข้ารักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกครัวเรือน ส่วนการซ่อมแซมบ้านเรือนขณะนี้ได้สั่งการไปยังป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ระดมทีม อปพร.เข้าให้การช่วยเหลือแล้ว
นายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากรายงานของอุตุนิยมวิทยาอำเภอกมลาไสย แจ้งว่า ตลอดระยะเวลาอีก 2 วันนี้ในพื้นที่ อำเภอท่าคันโท อำเภอห้วยเม็กและอำเภอหนองกุงศรี ซึ่งเป็นพื้นที่ราบสูงจะต้องระวัง โดยเฉพาะการสังเกตสภาพดินฟ้าอากาศที่หากเป็นสีแดงและมีลมกระโชกแรงจะต้องระวังเนื่องจากอาจจะเกิดปัญหาพายุฤดูร้อนขึ้นได้
โดยเฉพาะประชาชนที่จะใช้เส้นทางการเดินทางระหว่างบริเวณเทือกเขาภูพานจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมถึงประชาชนในพื้นที่เสียงก็ควรที่จะเตรียมรับมือกับความรุนแรงของพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ด้วยการดูแลบ้านเรือนให้แข็งแกร่ง ซึ่งที่ผ่านมาการเกิดพายุฤดูร้อนในพื้นที่อำเภอหนองกุงศรีนับว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่เบื้องต้นมีมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้าน และนับว่าเป็นการเกิดพายุฤดูร้อนที่รุนแรงในรอบ 30 ปี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความรุนแรงของพายุได้ทำให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายไปกว่า 650 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังมีความเสียหายของระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าและประปาได้รับความเสียหาย ที่ยังต้องทำการซ่อมแซม
ส่วนสภาพจิตใจของประชาชนนับว่าดีขึ้นมากหลังมีทีมงานเข้าให้การช่วยเหลือ และเพื่อป้องกันปัญหามิจฉาชีพที่จะฉวยโอกาสในช่วงนี้ก็ได้สั่งการให้ ตำรวจภูธรจังหวัด จัดกำลังพลเข้ารักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกครัวเรือน ส่วนการซ่อมแซมบ้านเรือนขณะนี้ได้สั่งการไปยังป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ระดมทีม อปพร.เข้าให้การช่วยเหลือแล้ว
