เชียงราย - ฝ่ายปกครองเมืองเชียงรายลุยดำเนินคดีหญิงชาวเขา ใช้หลักฐานเท็จสวมชื่อผู้อื่นทำบัตรประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนอยู่เบื้องหลังและเรียกรับผลประโยชน์ ด้าน นอภ.แม่ฟ้าหลวง สั่งตรวจสอบดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา จนท.นอกแถว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า ปัญหาเรื่องการสวมบัตรประชาชนเถื่อนในพื้นที่เชียงราย โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เบื้องหลังยังคงปรากฏอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ร.ต.ต.อาณัติ กาวิชา ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งจากฝ่ายปกครอง อ.เมืองเชียงราย ให้ดำเนินคดีกับนางอาเพียว เชอหมื่อ ราษฎรชาวไทยภูเขา ฐานความผิดใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ ตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร์ พ.ศ.2542 แจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
การแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2548 ได้มีกลุ่มบุคคลทำหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า นางอาเพียว เชอหมื่อ ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 2/1 ม.8 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้ทำการสวมชื่อของผู้อื่นในการทำเอกสารบัตรประชาชนโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนอยู่เบื้องหลังในการช่วยเหลือและเรียกรับผลประโยชน์อยู่ด้วย
ทางกระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำการตรวจสอบ ซึ่งพบว่านางอาเพียว เชอหมื่อ ได้ไปทำบัตรประชาชนที่แผนกทะเบียนราษฎร์ ที่ว่าการอำเภอแม่ฟ้าหลวง โดยได้สวมชื่อเป็น น.ส.หมี่ชู้ เปียชู้ หรือนางหมีชู้ เปียชู้ คณะกรรมการของทางจังหวัด ได้ตรวจสอบพบว่าหลังจากทำบัตรประชาชนได้แล้ว นางอาเพียว ได้ย้ายที่อยู่อาศัยไปอยู่บ้านเลขที่ 359 ม.7 ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย และได้มาแจ้งเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใหม่ โดยอ้างว่าได้จดทะเบียนสมรสใหม่
ล่าสุดภายหลังจากที่ทางคณะกรรมการจังหวัดเชียงรายร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่ฟ้าหลวง ที่มีนายสมชัย รุ่งสาคร เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวน ได้เข้าทำการสอบสวนข้อเท็จจริง และพบว่าข้อร้องเรียนเป็นความจริงทุกประการ จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินคดีกับนางอาเพียว โดยผู้ต้องหาได้นำหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวออกมา
นายสมชัย กล่าวว่า นอกจากจะมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว ยังจะสั่งตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่จำนวนกี่รายที่เข้าไปช่วยเหลือในการสวมบัตร เพื่อจะได้ดำเนินคดีทั้งทางด้านวินัยและอาญากับเจ้าหน้าที่นอกแถว ที่เรียกรับผลประโยชน์ในการออกเอกสารบัตรประจำตัวอันเป็นเท็จให้กับนางอาเพียว ซึ่งได้สวมชื่อของ น.ส.หมี่ชู้ ซึ่งมีภาพถ่ายประวัติเป็นคนละคนกันตามเอกสารหลักฐาน โดย น.ส.หมี่ชู้ตัวจริงยังมีชีวิตอยู่ ร.ต.ต.อาณัติ กาวิชา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย จะออกหมายเรียกนางอาเพียว มารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า ปัญหาเรื่องการสวมบัตรประชาชนเถื่อนในพื้นที่เชียงราย โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เบื้องหลังยังคงปรากฏอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ร.ต.ต.อาณัติ กาวิชา ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งจากฝ่ายปกครอง อ.เมืองเชียงราย ให้ดำเนินคดีกับนางอาเพียว เชอหมื่อ ราษฎรชาวไทยภูเขา ฐานความผิดใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ ตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร์ พ.ศ.2542 แจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
การแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2548 ได้มีกลุ่มบุคคลทำหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า นางอาเพียว เชอหมื่อ ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 2/1 ม.8 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้ทำการสวมชื่อของผู้อื่นในการทำเอกสารบัตรประชาชนโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนอยู่เบื้องหลังในการช่วยเหลือและเรียกรับผลประโยชน์อยู่ด้วย
ทางกระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำการตรวจสอบ ซึ่งพบว่านางอาเพียว เชอหมื่อ ได้ไปทำบัตรประชาชนที่แผนกทะเบียนราษฎร์ ที่ว่าการอำเภอแม่ฟ้าหลวง โดยได้สวมชื่อเป็น น.ส.หมี่ชู้ เปียชู้ หรือนางหมีชู้ เปียชู้ คณะกรรมการของทางจังหวัด ได้ตรวจสอบพบว่าหลังจากทำบัตรประชาชนได้แล้ว นางอาเพียว ได้ย้ายที่อยู่อาศัยไปอยู่บ้านเลขที่ 359 ม.7 ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย และได้มาแจ้งเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใหม่ โดยอ้างว่าได้จดทะเบียนสมรสใหม่
ล่าสุดภายหลังจากที่ทางคณะกรรมการจังหวัดเชียงรายร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่ฟ้าหลวง ที่มีนายสมชัย รุ่งสาคร เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวน ได้เข้าทำการสอบสวนข้อเท็จจริง และพบว่าข้อร้องเรียนเป็นความจริงทุกประการ จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินคดีกับนางอาเพียว โดยผู้ต้องหาได้นำหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวออกมา
นายสมชัย กล่าวว่า นอกจากจะมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว ยังจะสั่งตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่จำนวนกี่รายที่เข้าไปช่วยเหลือในการสวมบัตร เพื่อจะได้ดำเนินคดีทั้งทางด้านวินัยและอาญากับเจ้าหน้าที่นอกแถว ที่เรียกรับผลประโยชน์ในการออกเอกสารบัตรประจำตัวอันเป็นเท็จให้กับนางอาเพียว ซึ่งได้สวมชื่อของ น.ส.หมี่ชู้ ซึ่งมีภาพถ่ายประวัติเป็นคนละคนกันตามเอกสารหลักฐาน โดย น.ส.หมี่ชู้ตัวจริงยังมีชีวิตอยู่ ร.ต.ต.อาณัติ กาวิชา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย จะออกหมายเรียกนางอาเพียว มารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป