เชียงราย - เกิดเหตุเพลิงไหม้ ข้างสวนรุกขชาติโป่งสลีเมืองเชียงราย ลามเผาต้นสัก อายุตั้งแต่ 10-50 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครเชียงราย และใกล้เคียง 4 คัน ต้องช่วยกันระดมน้ำดับเพลิง ค่าเสียหายยังประเมินไม่ได้ คาดต้นเหตุมาจากชาวบ้านมาเปาวัชพืชใกล้สวนสักแล้วลุกลาม
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่บริเวณด้านข้างสวนรุกขชาติโป่งสลี หรือ สวนสักโป่งสลี ตำบลสันทราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ในการดูแลของสำนักอนุรักษ์ที่ 15 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เย็นวันที่ 21 มี.ค.51 ที่ผ่านมา
โดยเพลิงโหมไหม้แรงติดหญ้าและป่าไผ่ ก่อนลุกลามต้นสัก อายุตั้งแต่ 10-50 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครเชียงราย และใกล้เคียง 4 คัน ต้องช่วยกันระดมน้ำดับเพลิง และเจ้าหน้าที่สวนสักกว่า 20 คน ก็ช่วยกันเต็มที่ แต่ด้วยลมที่แรงพัดไฟให้ลุกโชน จนเวลาผ่านไปราว 1 ชั่วโมง เพลิงจึงเริ่มสงบ แต่เผาผลาญพื้นที่ราว 30 ไร่ ต้นสักสูงราว 10 เมตร ขนาดเล็กไปจนถึง ขนาด 2 คนโอบ เสียหาย ราว 150 ต้น ค่าเสียหายยังประเมินไม่ได้ แต่คาดว่าน่าหลายล้านบาท รวมทั้งความเสียหายทางทรัพยากรธรรมชาคติอีกจำนวนมาก ซึ่งเวณที่ถูกเพลิงไหม้เป็นแปลงเพาะพันธุ์พืชด้วย
สำหรับเจ้าหน้าที่สวนรุกขชาติโป่งสลี ได้รายงานความเสียหายให้นายเพียรศักดิ์ นาควิไล หัวหน้าสวนรุกขชาติโป่งสลี ทราบ และสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น โดยต้นเพลิงคาดว่าจะมาจาก ป่าหญ้าริมแม่น้ำติดสวนรุกขชาติ ที่มีผู้เห็นว่ามีชาวบ้าน 2 คน พร้อมรถแทรกเตอร์มาปรับเกรดที่ดินรก และเผาวัชพืช ก่อนที่ลมจะพัดเอาเปลวเพลิงมาตกในเขตสวนรุกขชาติ จนไฟลุกลาม
หลังเกิดเหตุชาวบ้าน 2 คน พร้อมรถแทรกเตอร์ได้หลบหนีหายไป ซึ่งหากแน่ชัดว่าเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีได้ต่อไป และเพลิงไม้ครั้งนี้ยังทำให้มีการสะสมของหมอกคงวันในพื้นที่ ซึ่งกำลังเร่งรณรงค์งดการเผาทุกชนิดด้วย
สวนรุกขชาติ หรือสวนสักโป่งสลี มีพื้นที่ราว 668 ไร่ เป็นสวนป่าสักที่มีต้นสักหลายพันต้น อายุบาต้นกว่า 50 ปี และ เป็นสวนสักที่มีการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ มาทุกสมัย ตั้งแต่ปี 2518 และเป็นที่ทำกิจกรรมของประชาชน ที่มาศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ ซึ่งเพลิงที่ไหม้ ราว 30 ไร่ ครั้งนี้ ถือว่าทำให้เสียหายไปราว 5% ของพื้นที่ หลังจากเคยเกิดเพลิงไหม้ใหญ่ครั้งหลังสุดเมื่อปี 2544