xs
xsm
sm
md
lg

เขื่อนลำปาวมากพอใช้ตลอดแล้งนี้-แต่นาปรังควรงดหวั่นไม่คุ้มทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์-ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ยืนยันเขื่อนลำปาวมีน้ำเพียงพอในการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้ง แต่สำหรับพื้นที่นาปรังเกษตรกรควรลดการเพาะปลูกเนื่องจากปัญหาภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้เกิดภาวะความแห้งแล้งในทุกพื้นที่

นายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวีระศักดิ์ วิเชียรแสน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคณะเข้าติดตามสถานการณ์น้ำในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือ เขื่อนลำปาว ซึ่งการเข้าติดตามสถานการณ์ภัยแล้งครั้งนี้ เนื่องจาก นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ ได้รายงานผลกระทบที่เกิดจากปัญหาฝนทิ้งช่วง ที่ส่งผลให้ราษฎรขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค น้ำทำการเกษตร จนทางจังหวัดต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ง

นายฤาชัย จำปานิล หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฯ เขื่อนลำปาว รายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทานค่อนข้างที่จะมีความรุนแรง ที่ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะขยายเข้ามาสร้างปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่เขตชลประทาน เนื่องจากในปีนี้ผลจากภาวะราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรลงทุนทำนาปรังเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 60,000 ไร่ โดยปกติในฤดูแล้งจะมีการทำนาปรังเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 ไร่

ในปีนี้มีการทำนาปรังถึง 260,000 ไร่ อีกทั้งในพื้นที่เขตชลประทาน เกษตรกรก็ยังปลูกพืชผักและพืชสวนรวมไปถึงการทำบ่อปลาและบ่อกุ้ง ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 10,000 ไร่ จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากปริมาณน้ำที่ลดลงอย่างรวดเร็วขณะนี้ เขื่อนลำปาวเหลือน้ำอยู่เพียง ร้อยละ 39 หรือประมาณ 568 ล้าน ลบ.ม. จากระดับกักเก็บที่ 1,430 ล้าน.ลบ.ม. แต่ก็ยังถือว่าระดับน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ดี ที่เขื่อนลำปาวยังสามารถปล่อยน้ำลอยคลองเข้าพื้นที่ชลประมาณได้อย่างสบาย

แผนการส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานในฤดูแล้ง จะไปสิ้นสุดในวันที่ 20 เมษายนนี้ และสำหรับแนวโน้มในอนาคตเกี่ยวกับน้ำที่ใช้ทำประปาให้กับชุมชน เขื่อนลำปาวยืนยันว่า จะยังคงมีน้ำเพียงพอไปจนถึงฤดูฝนอย่างแน่นอน

นายประชา กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงจะเป็นเรื่องพื้นที่การเพาะปลูก ในเขตชลประทาน เกษตรกรที่คิดจะลงทุนก็ควรที่จะหยุดเพื่อป้องกันความเสียหาย เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ นับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีปัญหาในเรื่องของภัยธรรมชาติ เนื่องจากถึงแม้จะมีสภาพอากาศที่ร้อน แต่ในบางอำเภอก็ยังพบว่ามีอากาศเย็นที่ถือเป็นสภาพอากาศที่แปรปรวน

"สิ่งสำคัญประชาชนควรที่จะช่วยเหลือตัวเองด้วยการจัดหาภาชนะกักเก็บน้ำเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในคราวจำเป็น ในส่วนของการช่วยเหลือหลักขณะนี้ ได้ขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห้งเข้าดูแล และหากพื้นที่ใดมีปัญหามาก ก็จะจัดสรรงบประมาณเข้าให้การช่วยเหลือในทันที โดยจะเน้นไปที่การจัดหาแหล่งน้ำและการกักเก็บน้ำไว้ใช้เป็นหลัก"

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังกล่าวถึงแนวโน้มในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในอนาคตด้วยว่า จะมีการใช้ศักยภาพของเขื่อนลำปาวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในขณะนี้ ทางกรมชลประทาน กำลังดำเนินการก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเขื่อน ด้วยงบประมาณกว่า 1,800 ล้านบาท ที่จะเป็นการเพิ่มปริมาณกักเก็บ จากเดิม 1,430 ล้าน ลบ.ม. ก็จะเป็น 2,500 ล้าน ลบ.ม. ที่จะเป็นการแก้ไขทั้งปัญหาภัยแล้งและปัญหาน้ำท่วมในอนาคต ที่จะแล้วเสร็จในปี 2555
ซึ่งก็จะมีการดำเนินสำรองพื้นที่ส่งน้ำให้เกษตรกรสามารถทำการเพาะปลูกได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นการปลูกอ้อยและมันสำปะหลัง ที่จะเป็นกำลังหลักในการผลิตพืชชนิดนี้ ที่จะมีทั้งผลผลิตจากไร่และการสร้างพลังงานทดแทนที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคตด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น