xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มบุรีรัมย์ร้องถูก ตร.ไล่ยิงยัดข้อหาพยายามฆ่า-พร้อมเรียก 5 แสนปิดคดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - หนุ่มใหญ่บุรีรัมย์พร้อมญาติ และชาวบ้านกว่า 20 คน ร้องขอความเป็นธรรมอ้างถูกตำรวจ สภ.โนนดินแดง 4 นาย ไล่ยิงและรุมซ้อมในงานทำบุญอัฐิจนสลบเหมือด พร้อมจับยัดข้อหาพยายามฆ่า ส่งฝากขังศาลค้านประกัน ทั้งที่เป็นเรื่องชกต่อยสุดท้ายเรียก 5 แสนเพื่อปิดคดี ขณะตำรวจโต้เป็นกลุ่มเกเรประจำหมู่บ้านไม่พอใจ จนท.เข้าระงับเหตุชกต่อยหน้าเวทีหมอลำใช้มีดฟันศีรษะและมือ ตร.บาดเจ็บเย็บ 10 เข็ม ยันทุกอย่างทำตามขั้นตอน กม.พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย


วันนี้ (20 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายเสถียร หรือเดช ทองมา อายุ 33 ปี อยู่เลขที่ 75 หมู่ 10 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมญาติและชาวบ้านลำนางรอง หมู่ 10 ต.ลำนางรอง กว่า 20 คนได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน ภายหลังเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ และผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์

โดยอ้างว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมาได้ถูก ส.ต.ต.สุริพงษ์ ทางดี ตำรวจชุดสายสืบ พร้อมเพื่อนตำรวจ สภ.โนนดินแดงรวม 4 นาย รุมซ้อมและไล่ยิงกลางงานบุญฉลองอัฐิ และถูกจับกุมซ้อมจนสลบโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม จากนั้นได้ยัดข้อหา “พยายามฆ่า” ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรอง นาน 28 วัน ญาติได้ประกันตัวออกมา เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา

นายเสถียร ทองมา เล่าว่า คืนเกิดเหตุ วันที่ 8 ก.พ.51 เป็นงานฉลองอัฐิในหมู่บ้าน เมื่อเวลาประมาณ 24.00 น.ได้มีเรื่องชกต่อยหน้าเวทีหมอลำ ซึ่งขณะนั้นตนนั่งอยู่ในโต๊ะอาหารขณะมีเรื่องได้ลุกขึ้นไปดู ต่อมาได้มีคนเข้ามากระโดดถีบต้นคอด้านหลังจนล้มคว่ำ เมื่อสอบถามคนอยู่ใกล้ตัวทราบว่าเป็นชายสูงประมาณ 165 เซนติเมตร (ซม.) สวมเสื้อเชิ๊ตลายกางเกงยีนไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงเกิดความแค้นใช้ก้อนหินขนาดพอมือเข้าไปทุบหัวหนึ่งครั้ง

หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวได้ชักมีดหมายทำร้าย จึงเกิดการยื้อแย่งมีดโดยตนเป็นฝ่ายได้มีด จึงถือกวาดไปมาไม่ให้เข้าใกล้ จากนั้นจึงวิ่งหนีออกมานอกงาน ระหว่างที่กำลังวิ่งหลบหนี ได้มีคนวิ่งตามหลายคนและได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4-5 นัด ตนเกรงว่าจะถูกยิงจึงหยุดวิ่ง หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายมารุมกระทืบจนตนสลบคาที่ ไปฟื้นอีกที่อยู่ในห้องขัง สภ.โนนดินแดง และมารู้ภายหลังว่าคนที่ไล่ยิงคือ ส.ต.ต.สุริพงษ์ เป็นตำรวจชุดสืบ


นายเสถียร เล่าต่อว่า พอวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติงานตามหน้าที่” พร้อมกับส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรอง และ คัดค้านการประกันตัว ซึ่งการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการทำเกินกว่าเหตุ และตั้งข้อหาหนักเกินความเป็นจริง ทั้งที่เป็นเรื่องทะเลาะชกต่อยกัน นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้เจรจาผ่านสมาชิกสภาจังหวัดบุรีรัมย์ (ส.อบจ.) ในพื้นที่ เรียกเงิน 500,000 บาท หากต้องการยุติคดีความ ซึ่งหากต้องใช้เงินมากขนาดนั้นตนเองพร้อมติดคุก

ทางด้าน พ.ต.อ.พรเทพ เพชรคง ผกก.สภ.โนนดินแดง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ในคืนวันเกิดเหตุซึ่งเป็นการจัดงานฉลองอัฐิภายในหมู่บ้านลำนางรอง ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยภายในงาน 12 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบพร้อมกับตำรวจหมู่บ้านอีกจำนวนหนึ่ง เพราะพื้นที่อำเภอโนนดินแดงมักจะมีเรื่องชกต่อยกันเป็นประจำ หลังได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ จึงได้ไปตรวจสอบพบว่า ส.ต.ต.สุริพงษ์ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวเย็บ 7 เข็ม และนิ้วมืออีก 3 เข็ม

โดยจากการสอบถามลูกน้องที่ปฏิบัติหน้าที่ในที่เกิดเหตุได้ความว่า ระหว่างมีเรื่องชกต่อยหน้าเวที ส.ต.ต.สุริพงษ์ ได้เข้าไประงับเหตุและสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 1 คน ระหว่างที่กำลังล็อกตัวผู้ก่อเหตุอยู่นั้นได้ มีคนนำก้อนอิฐมาทุบหัวจนล้มลง หลังจากนั้นได้ลุกขึ้นมาตั้งหลักและชักมีดที่ยึดมาได้ในงานออกมาเพื่อป้องกันตัว และนายเสถียร ซึ่งมีรูปร่างใหญ่กว่า แย่งมีดได้ฟัน ส.ต.ต.สุริพงษ์ หลายครั้ง อย่างไรก็ตามต่อมานายเสถียรได้เข้าแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน โดยจะส่งสำนวนให้กับ ปปช.ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ทุกอย่างทำไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งก็จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง พร้อมยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย” พ.ต.อ.พรเทพ กล่าว

ทางด้าน นายสมหมาย ปุเรนเต ผู้ใหญ่บ้านลำนางรอง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. บริเวณที่เกิดเหตุจำนวน 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจถือว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพราะในหมู่บ้านลำนางรองได้ตั้งกฎไว้มานานว่าห้ามไม่ให้ยิงปืนในหมู่บ้าน ผู้ที่ยิงปืนจะถูกปรับนัดละ 500 บาท แต่หากเป็นผู้ใหญ่ กำนัน หรือผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่จะถูกปรับนัดละ 1,000 บาท แต่ครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางคณะกรรมการหมู่บ้านจะได้ประชุมหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

“ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้ตำรวจทำตามขั้นตอนและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย” นายสมหมาย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น