เชียงราย- เชียงรายชวนผู้ประกอบการ จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขนสินค้ามาจำหน่ายในงานอุตสาหกรรมแฟร์สร้างสีสันภายในงาน พร้อมระบุมีภาคเอกชนสนใจจะนำสินค้าของชาวไทยมุสลิม เปิดตลาดในประเทศจีนตอนใต้ มณฑลหยุนหนัน ซึ่งมีชาวมุสลิมอยู่จำนวนมาก
เมื่อเร็วๆ นี้นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายเจริญชัย แย้มแขไข ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย นายภิญโญ แสงพงศ์ชวาล อุตสาหกรรมจังหวัดยะลา และผู้แทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.นายพัฒนา สิทธิสมบัติ หอการค้าจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมเปิด งานอุตสาหกรรมแฟร์ ครั้งที่ 2 ที่โรงแรมลิตเติ้ลดั๊ก จ.เชียงราย โดยมีงาน มีการ จำหน่ายสินค้าไอที อาหาร โอทอป บ้านมือสอง มอเตอร์โชว์ มันนี่เอกซโป และมีการเชิญผู้ประกอบการ จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำสินค้า ประเภท เสื้อผ้า อาหาร ของที่ระลึกใช้ มาจำหน่าย สร้างสีสันภายในงานด้วย ซึ่งงานดังกล่าวจะมีไปจนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2551
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าหลังจากที่มีการเปิดงานไปได้ระยะหนึ่งปรากฏว่าขณะนี้ภาคเอกชนในจังหวัดได้ให้ความสนใจที่จะเปิดตลาดสินค้าชาวไทยมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับ ชาวมุสลิมในมณฑลหยุนหนัน( ยูนนาน) ซึ่งมีเป็นจำนวนมากและอาจจะมีการนำไปหารือในการประชุม คณะกรรมการประสานงานเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ 10 จังหวัดภาคเหนือ (คสศ.) ในวันที่ 8 เมษายน ที่จังหวัดเชียงราย โดยประเด็นดังกล่าวควรจะหยิบยกขึ้นมาในอันดับต้นๆ เพราะจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปในตัวด้วยเช่นกัน
นายภิญโญ แสงพงศ์ชวาล อุตสาหกรรมจังหวัดยะลา และผู้แทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.กล่าวว่า การนำผู้ประกอบการกว่า 30 ราย จาก จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เดินทางมาครั้งนี้เพื่อมาเปิดตลาดหาตลาดทางการการค้าใหม่ในภาคเหนือ และอาจจะเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้สถานการณ์ความไม่สงบ ถึงแม้อาจจะมีแนวโน้มดีขึ้น การก่อเหตุป่วนรายวันอาจลดลงแต่ภาคธุรกิจยังคงทรงกับทรุด การค้าการลงทุนซบเซา
ดังนั้น หากภาคเอกชนในจังหวัดเชียงรายสนใจที่จะนำสินค้าของชาวไทยมุสลิม ไปจำหน่ายเปิดตลาดในประเทศจีนตอนใต้ มณฑลหยุนหนัน ซึ่งมีชาวมุสลิมอยู่จำนวนมากก็น่าจะเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เนื่องจากที่ผ่านมามีการจำหน่ายสินค้าของชาวไทยมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปยังประเทศ มาเลเซีย และใกล้เคียงเท่านั้น
สำหรับนักลงทุนภาคใต้ทราบว่าขยายการลงทุนมายังภาคใต้ตอนบน และบางส่วนอาจจะสนใจมาลงทุนในภาคเหนือบ้าง ซึ่งตนมองว่ายางพาราน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคต เพราะนำมาผลิตยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ได้มากมาย และราคายางพาราขณะนี้สูงกิโลกรัมละ 80 บาท ถือว่าราคาดีและมีอนาคตสดใส
เมื่อเร็วๆ นี้นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายเจริญชัย แย้มแขไข ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย นายภิญโญ แสงพงศ์ชวาล อุตสาหกรรมจังหวัดยะลา และผู้แทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.นายพัฒนา สิทธิสมบัติ หอการค้าจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมเปิด งานอุตสาหกรรมแฟร์ ครั้งที่ 2 ที่โรงแรมลิตเติ้ลดั๊ก จ.เชียงราย โดยมีงาน มีการ จำหน่ายสินค้าไอที อาหาร โอทอป บ้านมือสอง มอเตอร์โชว์ มันนี่เอกซโป และมีการเชิญผู้ประกอบการ จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำสินค้า ประเภท เสื้อผ้า อาหาร ของที่ระลึกใช้ มาจำหน่าย สร้างสีสันภายในงานด้วย ซึ่งงานดังกล่าวจะมีไปจนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2551
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าหลังจากที่มีการเปิดงานไปได้ระยะหนึ่งปรากฏว่าขณะนี้ภาคเอกชนในจังหวัดได้ให้ความสนใจที่จะเปิดตลาดสินค้าชาวไทยมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับ ชาวมุสลิมในมณฑลหยุนหนัน( ยูนนาน) ซึ่งมีเป็นจำนวนมากและอาจจะมีการนำไปหารือในการประชุม คณะกรรมการประสานงานเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ 10 จังหวัดภาคเหนือ (คสศ.) ในวันที่ 8 เมษายน ที่จังหวัดเชียงราย โดยประเด็นดังกล่าวควรจะหยิบยกขึ้นมาในอันดับต้นๆ เพราะจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปในตัวด้วยเช่นกัน
นายภิญโญ แสงพงศ์ชวาล อุตสาหกรรมจังหวัดยะลา และผู้แทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.กล่าวว่า การนำผู้ประกอบการกว่า 30 ราย จาก จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เดินทางมาครั้งนี้เพื่อมาเปิดตลาดหาตลาดทางการการค้าใหม่ในภาคเหนือ และอาจจะเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้สถานการณ์ความไม่สงบ ถึงแม้อาจจะมีแนวโน้มดีขึ้น การก่อเหตุป่วนรายวันอาจลดลงแต่ภาคธุรกิจยังคงทรงกับทรุด การค้าการลงทุนซบเซา
ดังนั้น หากภาคเอกชนในจังหวัดเชียงรายสนใจที่จะนำสินค้าของชาวไทยมุสลิม ไปจำหน่ายเปิดตลาดในประเทศจีนตอนใต้ มณฑลหยุนหนัน ซึ่งมีชาวมุสลิมอยู่จำนวนมากก็น่าจะเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เนื่องจากที่ผ่านมามีการจำหน่ายสินค้าของชาวไทยมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปยังประเทศ มาเลเซีย และใกล้เคียงเท่านั้น
สำหรับนักลงทุนภาคใต้ทราบว่าขยายการลงทุนมายังภาคใต้ตอนบน และบางส่วนอาจจะสนใจมาลงทุนในภาคเหนือบ้าง ซึ่งตนมองว่ายางพาราน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคต เพราะนำมาผลิตยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ได้มากมาย และราคายางพาราขณะนี้สูงกิโลกรัมละ 80 บาท ถือว่าราคาดีและมีอนาคตสดใส