กาญจนบุรี- เตรียมทุ่มงบประมาณ 50 ล้านบาท ปรับภูมิทัศน์น้ำตกไทรโยคน้อย จังหวัดกาญจนบุรี โดยให้สถาปัตย์จุฬาออกแบบพลับพลาที่ในหลวงเสด็จชมน้ำตก
วันนี้ (13 มี.ค.) เวลา 17.00 น.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมผู้บริหารโรงงานกระดาษคราฟ์ไทย เครือซิเมนต์ไทย, อาจารย์จากคณะสถาปัตย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้บริหารเทศบาลตำบลน้ำตกไทรโยคน้อย ได้เดินทางไปที่น้ำตกไทรโยคน้อย ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยคณะทั้งหมดได้เดินดูสถานที่และสภาพพื้นที่ภูมิทัศน์บริเวณน้ำตกไทรโยคน้อย และพื้นที่ร้านค้าขายที่ระลึกรอบบริเวณน้ำตกและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับภูมิทัศน์โดยรอบทั้งหมด
นายอำนาจ เปิดเผยเกี่ยวกับการปรับปรุงภูมิทัศน์น้ำตกไทรโยคน้อย ว่า เนื่องจากน้ำตกไทรโยคน้อยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรีที่รู้จักกันไปทั่วโลก แต่เนื่องจากการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบยังไม่มีความเหมาะสม
ดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาน้ำตกไทยโยคน้อยให้ไปสู่การเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป ดังนั้น ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีความคิดว่าหากมีการปรับภูมิทัศน์ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีการจัดสร้างจุดขายที่เป็นจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่จะบอกเรื่องราวความสำคัญของน้ำตกแห่งนี้ เช่น จุดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จฯสรงน้ำ รวมถึงการสร้างพลับพลาจำลองที่เป็นจุดที่พระองค์ท่านเคยเสด็จฯเมื่อครั้งเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้ หรือจุดชมวิวที่จะถ่ายรูปในทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นต้น
ดังนั้น ตนจึงประสานงานกับส่วนต่างๆ เพื่อร่วมมือกันจึงเดินทางไปดูสภาพในครั้งนี้เนื่องจากโครงการปรับภูมิทัศน์นี้ถือเป็นการบริหารราชการแบบบูรณาการที่ต้องการให้ภาคส่วนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการ ซึ่งประกอบด้วยกันทั้งหมดทั้ง 4 ภาค คือ ภาคราชการที่ประกอบด้วยจังหวัดกาญจนบุรี เป็นฝ่ายอำนวยการและนโยบายและแผนต่างรวมทั้งการประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่สอง คือ ภาคเอกชน คือ โรงงานกระดาษคราฟท์ไทยในเครือซิเมนต์ไทย ที่จะสนับสนุนงบประมาณ เนื่องจากเล็งเห็นถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และต้องการให้เป็นศูนย์เรียนรู้ต่อประชาชนและเยาวชนที่จะเดินทางมาเที่ยวชม
ภาคที่สาม คือ ภาคการศึกษา คือ คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่จะมาดูแลเกี่ยวกับการออกแบบวางแปลน และจัดภูมิทัศน์ให้เกิดความเหมาะสวยงามและภาคสุดท้ายที่ถือว่าเป็นหัวใจของการพัฒนา คือ ภาคชุมชนคือ เทศบาลตำบลน้ำตกไทรโยคน้อยและชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในทุกด้านที่จะต้องช่วยกันระดมข้อมูลหรือความคิดเห็นว่าแนวทางใดเหมาะสมกับน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ดีหรือไม่ต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน
มีรายงานข่าวว่า น้ำตกไทรโยคน้อย ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่อเที่ยวปีละประมาณ 2ล้านคนเป็นอย่างน้อยและกำลังสร้างปัญหามลภาวะต่อการบำรุงรักษาสถานที่แห่งนี้ ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวเห็นภาพที่ไม่เหมาะสมสวยงาม จึงมีความกังวลห่วงใยต่อสถานที่แห่งนี้ จึงมีการแสดงความคิดเห็นมายังจังหวัดกาญจนบุรี จึงทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้คิดหาแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อน้ำตกไทรโยคน้อยในครั้งนี้และทางเครือซิเมนต์ไทยพร้อมที่จะบริจาคงบประมาณประมาณ 50 ล้านบาทในการจัดทำโครงการนี้เพื่อเป็นโครงการเทิดพระเกียรติถวายแด่ในหลวงอีกด้วย
วันนี้ (13 มี.ค.) เวลา 17.00 น.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมผู้บริหารโรงงานกระดาษคราฟ์ไทย เครือซิเมนต์ไทย, อาจารย์จากคณะสถาปัตย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้บริหารเทศบาลตำบลน้ำตกไทรโยคน้อย ได้เดินทางไปที่น้ำตกไทรโยคน้อย ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยคณะทั้งหมดได้เดินดูสถานที่และสภาพพื้นที่ภูมิทัศน์บริเวณน้ำตกไทรโยคน้อย และพื้นที่ร้านค้าขายที่ระลึกรอบบริเวณน้ำตกและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับภูมิทัศน์โดยรอบทั้งหมด
นายอำนาจ เปิดเผยเกี่ยวกับการปรับปรุงภูมิทัศน์น้ำตกไทรโยคน้อย ว่า เนื่องจากน้ำตกไทรโยคน้อยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรีที่รู้จักกันไปทั่วโลก แต่เนื่องจากการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบยังไม่มีความเหมาะสม
ดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาน้ำตกไทยโยคน้อยให้ไปสู่การเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป ดังนั้น ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีความคิดว่าหากมีการปรับภูมิทัศน์ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีการจัดสร้างจุดขายที่เป็นจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่จะบอกเรื่องราวความสำคัญของน้ำตกแห่งนี้ เช่น จุดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จฯสรงน้ำ รวมถึงการสร้างพลับพลาจำลองที่เป็นจุดที่พระองค์ท่านเคยเสด็จฯเมื่อครั้งเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้ หรือจุดชมวิวที่จะถ่ายรูปในทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นต้น
ดังนั้น ตนจึงประสานงานกับส่วนต่างๆ เพื่อร่วมมือกันจึงเดินทางไปดูสภาพในครั้งนี้เนื่องจากโครงการปรับภูมิทัศน์นี้ถือเป็นการบริหารราชการแบบบูรณาการที่ต้องการให้ภาคส่วนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการ ซึ่งประกอบด้วยกันทั้งหมดทั้ง 4 ภาค คือ ภาคราชการที่ประกอบด้วยจังหวัดกาญจนบุรี เป็นฝ่ายอำนวยการและนโยบายและแผนต่างรวมทั้งการประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่สอง คือ ภาคเอกชน คือ โรงงานกระดาษคราฟท์ไทยในเครือซิเมนต์ไทย ที่จะสนับสนุนงบประมาณ เนื่องจากเล็งเห็นถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และต้องการให้เป็นศูนย์เรียนรู้ต่อประชาชนและเยาวชนที่จะเดินทางมาเที่ยวชม
ภาคที่สาม คือ ภาคการศึกษา คือ คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่จะมาดูแลเกี่ยวกับการออกแบบวางแปลน และจัดภูมิทัศน์ให้เกิดความเหมาะสวยงามและภาคสุดท้ายที่ถือว่าเป็นหัวใจของการพัฒนา คือ ภาคชุมชนคือ เทศบาลตำบลน้ำตกไทรโยคน้อยและชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในทุกด้านที่จะต้องช่วยกันระดมข้อมูลหรือความคิดเห็นว่าแนวทางใดเหมาะสมกับน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ดีหรือไม่ต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน
มีรายงานข่าวว่า น้ำตกไทรโยคน้อย ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่อเที่ยวปีละประมาณ 2ล้านคนเป็นอย่างน้อยและกำลังสร้างปัญหามลภาวะต่อการบำรุงรักษาสถานที่แห่งนี้ ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวเห็นภาพที่ไม่เหมาะสมสวยงาม จึงมีความกังวลห่วงใยต่อสถานที่แห่งนี้ จึงมีการแสดงความคิดเห็นมายังจังหวัดกาญจนบุรี จึงทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้คิดหาแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อน้ำตกไทรโยคน้อยในครั้งนี้และทางเครือซิเมนต์ไทยพร้อมที่จะบริจาคงบประมาณประมาณ 50 ล้านบาทในการจัดทำโครงการนี้เพื่อเป็นโครงการเทิดพระเกียรติถวายแด่ในหลวงอีกด้วย