ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “กลุ่มรักษ์สุรินทร์” ที่บรรดา ส.ส. “พลังแม้ว”หนุนหลัง ส่งตัวแทนหอบหลักฐานแบงก์พันรวม 6,000 บาท บุก กกต.ยื่นร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและ ส.ท.สุรินทร์ อ้างเป็นเงินซื้อเสียงของหัวคะแนนกลุ่มการเมืองคู่แข่งที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
ช่วงบ่ายวันนี้ (11 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดสุรินทร์ ถ.จิตบำรุง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายวีระชัย มูลศาสตร์ ตัวแทนผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ หัวหน้า “กลุ่มรักษ์สุรินทร์” ได้เดินทางมายื่นหนังสือพร้อมหลักฐานเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 6,000 บาท เพื่อร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ และ สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) เมืองสุรินทร์ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายวีระชัย มูลศาสตร์ ระบุว่า ได้มีประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์จำนวนหลายคน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน “กลุ่มรักษ์สุรินทร์” ได้นำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท อ้างว่า ได้รับมาจากหัวคะแนนกลุ่มการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่แข่งเพื่อขอร้องให้ลงคะแนนเสียงให้ มามอบให้หัวหน้ากลุ่มรักษ์สุรินทร์ คือ นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์
“นายวรรธนินทร์ จึงได้มอบหมายให้ตนนำหนังสือร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง พร้อมหลักฐาน เป็น ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 6,000 บาท มายื่นร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งต่อ กกต.สุรินทร์ในวันนี้” นายวีระชัย กล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.สุรินทร์ ได้ตรวจสอบเอกสารพร้อมทั้งหลักฐานการร้องเรียน ก่อนลงเลขหนังสือรับหนังสือร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุรินทร์ดังกล่าวไว้ เพื่อที่จะตั้งอนุกรรมการขึ้นมาทำการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
นายวิชัย ทัศนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปเมื่อมีการร้องเรียน คัดค้านผลการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ กกต.ได้รับหนังสือไว้แล้วก็จะมีการตั้งกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งเพื่อทำการสืบสวนสอบสวน ที่สำคัญต้องมีการสืบพยานและตรวจสอบหลักฐานการร้องเรียน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน
จากนั้นจะส่งผลการสืบสวนสอบไปยัง กกต.กลาง เพื่อให้เป็นผู้ชี้ขาดว่าผิดหรือถูก ซึ่งขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ต้องดำเนินการหลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างรอบคอบเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้สมัครทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนระยะเวลาการสืบสวนสอบสวนจะนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับพยานที่จะมาให้ข้อมูลแก่ กกต.ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะนาน เพราะผู้ที่มีการอ้างถึงในการเป็นพยานมีภูมิลำเนาอยู่ในเมืองสุรินทร์สะดวกในการเดินทางมาให้ข้อมูล
“คาดว่า การสืบสวนสอบสวนจะดำเนินการได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น สำคัญที่สุด คือ เรื่องการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้ง เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างรอบให้มากที่สุด” นายวิชัย กล่าว
อนึ่ง ผลการเลือกตั้งเทศบาลเมืองสุรินทร์ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ ที่ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 คือ หมายเลข 1 นายสมบูรณ์ เรืองกาญจนเศรษฐ หัวหน้า “กลุ่มกิจประชา” ซึ่งกลุ่มนักการเมือง ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) ให้การสนับสนุนได้จำนวน 7,047 คะแนน
อันดับ 2 ผู้สมัครหมายเลข 2 นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ หัวหน้า “กลุ่มรักษ์สุรินทร์” อดีตนายกเทศมนตรีชุดล่าสุด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนักการเมือง ส.ส.พรรคพลังประชาชน (พปช.) ได้จำนวน 6,441 คะแนน และอันดับ 3 ผู้สมัครหมายเลข 4 นายคราศี ลอยทอง สังกัดกลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ ได้จำนวน 1,288 คะแนน
สำหรับสมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุรินทร์ (ส.ท.) แบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 3 เขต มีสมาชิกได้ทั้งหมด 18 คน เขตละ 6 คน ปรากฏว่า “กลุ่มกิจประชา” สามารถกวาดที่นั่ง ส.ท.ได้ถึง 12 ที่นั่ง, กลุ่มรักษ์สุรินทร์ ได้ 6 ที่นั่ง