ม็อบผู้ปกครอง/นร.บุรีรัมย์บุกร้องผู้ว่าฯ - เร่งรัดงบฯ สร้างอาคารเรียนหลังใหม่

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ปกครอง พร้อมคณะกรรมการสถานศึกษา และเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านเข้วา อ.คูเมือง กว่า 300 คน บุกยื่นหนังสือร้องผู้ว่าฯบุรีรัมย์ หลังไม่ได้รับการแก้ปัญหาในการพิจารณาก่อสร้างอาคารเรียนใหม่ แทนหลังเก่าที่ทรุดโทรม ผวาอาคารพังถล่มเป็นอันตรายต่อเด็กนักเรียนและครู

วันที่ 7 มี.ค. ผู้ปกครองนักเรียนจาก 5 หมู่บ้าน พร้อมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเด็กนักเรียน โรงเรียนบ้านเขว้า ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 300 คน ได้มาชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ นายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมให้เหตุผลว่า การพิจารณาของคณะกรรมการฯ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) บุรีรัมย์ เขต 4 ไม่เป็นธรรม เพราะไม่เคยออกตรวจสอบสภาพข้อเท็จจริงในพื้นที่ หรือความจำเป็นของแต่ละโรงเรียน เพื่อประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่แทนหลังเดิม ซึ่งโรงเรียนบ้านเขว้าไม่ได้รับการพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณดำเนินการในปีนี้

ทั้งที่ประสบปัญหาขาดแคลนห้องเรียน เนื่องจากอาคารเรียนหลังเดิมผุพังชำรุดทรุดโทรมใช้งานมานานกว่า 30 ปี ขณะที่โรงเรียนบางแห่งไม่ได้ประสบปัญหาขาดแคลนห้องเรียน แต่กลับได้รับการจัดสรรงบประมาณ เนื่องจากผู้บริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคณะกรรมการฯ พิจารณา

นายสุวิชัย อ่วมอิ่ม ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านเขว้า กล่าวว่า จากสภาพอาคารเรียนที่ชำรุดผุพัง ขณะนี้ทางโรงเรียนได้ให้เด็กนักเรียนที่เรียนในอาคารหลังดังกล่าวกว่า 180 คน มานั่งเรียนใช้เต็นท์ชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าอาคารจะพังทับได้รับอันตราย จึงได้พากันมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากทางจังหวัดดังกล่าว

ด้าน นายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ภายหลังรับหนังสือร้องเรียน ได้ประสานงานกับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 โดยเบื้องต้นได้รับแจ้งว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องเพื่อขอรับงบประมาณเพิ่มเติม ในการแก้ไขปัญหาเรื่องอาคารเรียนโรงเรียนบ้านเขว้า ต่อกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเตรียมเสนอของบประมาณดำเนินการในปี 2552 จึงสร้างความพอใจให้กับผู้ปกครองและนักเรียน ต่างพากันเดินทางกลับในเวลาต่อมา

นายสวัสดิ์ ตุมารัมย์ อายุ 52 ปี ส.อบต.ม.18 บ.น้อยแสนสุข ต.ปะเคียบ กล่าวว่า อาคารเรียนหลังดังกล่าวสร้างมานานกว่า 30 ปี หมดสภาพชำรุดทรุดโทรมผุพัง เสามีรอยร้าวหลายจุด พื้นห้องผุเป็นรูขนาดใหญ่ บันได ประตู หน้าต่างห้องเรียนทั้งชั้นบนชั้นล่างก็ชำรุดเกือบทุกบาน

ปัจจุบันทางโรงเรียนต้องให้เด็กนักเรียนมานั่งเรียนในเต้นท์ชั่วคราว เพราะผู้ปกครองเกรงว่าบุตรหลานจะได้รับอันตราย ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่โดยเร่งด่วนด้วยเพื่อเห็นแก่บุตรหลาน