มุกดาหาร - “อุไรวรรณ” แนะหน่วยงานในสังกัด ก.แรงงาน ต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อขจัดปัญหาความเดือดร้อนด้านการจ้างงานในพื้นที่ ขณะที่การจ้ดงบจะพิจารณาจากประเด็นปัญหาหนัก-เบา
วันนี้ (6 มี.ค.) นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเดินทางมามอบนโยบายแก่ผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานใน 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดมุกดาหาร ว่า กระทรวงแรงงาน จะเน้นแนวทางในการทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานในพื้นที่ โดยมีแนวนโยบายหลัก 16 ข้อ
เช่น การเร่งนำข้อเรียกร้องขององค์กรแรงงานในวันแรงงานแห่งชาติ มาพิจารณาเพื่อดำเนินการให้สำเร็จลุล่วง, การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งแรงงานผู้สูงอายุ ทั้งด้านค่าจ้าง ความปลอดภัย สุขภาพ และสวัสดิการต่างๆ, การแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานที่ทำงานเพื่อเป็นโรงงานสีขาว, การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
ทั้งนี้ จะเน้นให้ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสอบถามความต้องการของประชาชนว่า ต้องการฝึกฝนในหลักสูตรใด รวมทั้งผู้ที่ว่างงานสามารถสอบถามตำแหน่งงานว่างได้ที่สำนักงานจัดหางานหรือศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ว่างงานไม่ให้ความสำคัญกับการหางานจากหน่วยงานเหล่านี้ ส่วนการจ้างงานเร่งด่วนก็เพื่อช่วยเหลือการมีงานทำช่วงภัยแล้ง
นางอุไรวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดสรรงบประมาณ จะพิจารณาจากความเดือดร้อน ของแต่ละพื้นที่ว่าพื้นที่ใดเดือนร้อนหนัก-เบาต่างกันอย่างไร ซึ่งในเบื้องต้นได้จัดสรรให้จังหวัดละ 2,500,000 บาท แต่หากมีความเสียหายจากภัยแล้งรุนแรง ประชาชนไม่มีงานทำ หรือเพื่อชะลอการอพยพย้ายถิ่น ก็จะจัดสรรให้ดำเนินการระยะที่ 2 อีก 2,500,000 บาท
วันนี้ (6 มี.ค.) นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเดินทางมามอบนโยบายแก่ผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานใน 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดมุกดาหาร ว่า กระทรวงแรงงาน จะเน้นแนวทางในการทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานในพื้นที่ โดยมีแนวนโยบายหลัก 16 ข้อ
เช่น การเร่งนำข้อเรียกร้องขององค์กรแรงงานในวันแรงงานแห่งชาติ มาพิจารณาเพื่อดำเนินการให้สำเร็จลุล่วง, การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งแรงงานผู้สูงอายุ ทั้งด้านค่าจ้าง ความปลอดภัย สุขภาพ และสวัสดิการต่างๆ, การแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานที่ทำงานเพื่อเป็นโรงงานสีขาว, การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
ทั้งนี้ จะเน้นให้ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสอบถามความต้องการของประชาชนว่า ต้องการฝึกฝนในหลักสูตรใด รวมทั้งผู้ที่ว่างงานสามารถสอบถามตำแหน่งงานว่างได้ที่สำนักงานจัดหางานหรือศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ว่างงานไม่ให้ความสำคัญกับการหางานจากหน่วยงานเหล่านี้ ส่วนการจ้างงานเร่งด่วนก็เพื่อช่วยเหลือการมีงานทำช่วงภัยแล้ง
นางอุไรวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดสรรงบประมาณ จะพิจารณาจากความเดือดร้อน ของแต่ละพื้นที่ว่าพื้นที่ใดเดือนร้อนหนัก-เบาต่างกันอย่างไร ซึ่งในเบื้องต้นได้จัดสรรให้จังหวัดละ 2,500,000 บาท แต่หากมีความเสียหายจากภัยแล้งรุนแรง ประชาชนไม่มีงานทำ หรือเพื่อชะลอการอพยพย้ายถิ่น ก็จะจัดสรรให้ดำเนินการระยะที่ 2 อีก 2,500,000 บาท