มหาสารคาม - เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง นอกจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้วยังมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากค่าอาหารที่ปรับเพิ่มขึ้น อีกกว่าร้อยละ 30
จากการติดตามสถานการณ์การเลี้ยงปลากระชัง ตลอดลุ่มน้ำชีที่ไหลผ่านเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เริ่มตั้งแต่ฝายคุยเชือก อำเภอโกสุมพิสัย รวมความยาวของลำน้ำชีที่ไหลผ่าน กว่า 80 กิโลเมตร ทุกปีมีเกษตรกรที่อาศัยลำน้ำชีเลี้ยงปลากระชังกว่า 3,000 กระชัง เลี้ยงมากในเขตอำเภอโกสุมพิสัย กันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม แต่ในช่วงนี้มีเกษตรกรปล่อยปลากระชังลงเลี้ยงลดลงเกือบครึ่ง
นางสมบูรณ์ คงอุดม เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังบ้านดินดำ ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม บอกว่า แม้ปีนี้สภาพอากาศโดยทั่วไปจะเป็นใจและเอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงปลากระชัง ที่สภาพอากาศโดยทั่วไปยังไม่ร้อน ทำให้ปลาตายน้อย มีอัตราการรอดสูง แต่ก็เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยากเนื่องจากสภาพอากาศมีความผันผวนค่อนข้างมากกว่าทุกปี และใกล้ถึงเดือนเมษายนแล้ว
ประกอบกับต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มขึ้น กว่าร้อยละ 30 จากค่าอาหารปลาที่ปรับตัวสูงขึ้น 3 คั้งติดต่กัน ล่าสุดราคาอยู่ที่กระสอบละ 510 บาท โดยเลี้ยงปลากระชัง 1 บ่อ จะใช้หัวอาหาร 50 กระสอบต่อรุ่น เพื่อให้ปลามีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัมต่อตัว จึงจะจับจำหน่ายได้ง่ายเป็นที่ต้องการของตลาด สถานการณ์ปีนี้มีจำนวนผู้เลี้ยงลดลงเกือบครึ่ง นอกจากได้รับผลกระทบจากค่าอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว พันธุ์ปลายังขาดแคลน
อีกทั้งในระยะที่มีการปล่อยน้ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง น้ำชีมีความขุ่นข้นทำให้ปลาตาย และเมื่อถึงเดือนเมษายนของทุกปีมักเกิดน้ำเน่าเสียจึงมีความเสี่ยงต่อการเลี้ยงปลาที่ตายได้ง่ายเมื่อใกล้จะได้จับปลาส่งจำหน่าย อย่างไรก็ตาม ผู้เลี้ยงไม่ควรปล่อยปลาหนาแน่นและให้อาหารในปริมาณมาก ซึ่งจะเป็นการเร่งให้เกิดน้ำเน่าเสียเร็วขึ้น
จากการติดตามสถานการณ์การเลี้ยงปลากระชัง ตลอดลุ่มน้ำชีที่ไหลผ่านเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เริ่มตั้งแต่ฝายคุยเชือก อำเภอโกสุมพิสัย รวมความยาวของลำน้ำชีที่ไหลผ่าน กว่า 80 กิโลเมตร ทุกปีมีเกษตรกรที่อาศัยลำน้ำชีเลี้ยงปลากระชังกว่า 3,000 กระชัง เลี้ยงมากในเขตอำเภอโกสุมพิสัย กันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม แต่ในช่วงนี้มีเกษตรกรปล่อยปลากระชังลงเลี้ยงลดลงเกือบครึ่ง
นางสมบูรณ์ คงอุดม เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังบ้านดินดำ ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม บอกว่า แม้ปีนี้สภาพอากาศโดยทั่วไปจะเป็นใจและเอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงปลากระชัง ที่สภาพอากาศโดยทั่วไปยังไม่ร้อน ทำให้ปลาตายน้อย มีอัตราการรอดสูง แต่ก็เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยากเนื่องจากสภาพอากาศมีความผันผวนค่อนข้างมากกว่าทุกปี และใกล้ถึงเดือนเมษายนแล้ว
ประกอบกับต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มขึ้น กว่าร้อยละ 30 จากค่าอาหารปลาที่ปรับตัวสูงขึ้น 3 คั้งติดต่กัน ล่าสุดราคาอยู่ที่กระสอบละ 510 บาท โดยเลี้ยงปลากระชัง 1 บ่อ จะใช้หัวอาหาร 50 กระสอบต่อรุ่น เพื่อให้ปลามีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัมต่อตัว จึงจะจับจำหน่ายได้ง่ายเป็นที่ต้องการของตลาด สถานการณ์ปีนี้มีจำนวนผู้เลี้ยงลดลงเกือบครึ่ง นอกจากได้รับผลกระทบจากค่าอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว พันธุ์ปลายังขาดแคลน
อีกทั้งในระยะที่มีการปล่อยน้ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง น้ำชีมีความขุ่นข้นทำให้ปลาตาย และเมื่อถึงเดือนเมษายนของทุกปีมักเกิดน้ำเน่าเสียจึงมีความเสี่ยงต่อการเลี้ยงปลาที่ตายได้ง่ายเมื่อใกล้จะได้จับปลาส่งจำหน่าย อย่างไรก็ตาม ผู้เลี้ยงไม่ควรปล่อยปลาหนาแน่นและให้อาหารในปริมาณมาก ซึ่งจะเป็นการเร่งให้เกิดน้ำเน่าเสียเร็วขึ้น
