xs
xsm
sm
md
lg

ผู้การฯขอนแก่นลั่นสั่งตามหายามฯบ้านไผ่ล่องหน - ชี้เสี่ยงถูกอุ้มสูงคู่กรณีเยอะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ผู้การฯขอนแก่นแจงไม่นิ่งนอนใจตามหา”นายกมล” สมาชิกเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่น-ยามเฝ้าแผ่นดินที่หายตัวไปกว่า 20วัน หลังโร่ขึ้นโรงพักบ้านไผ่ ตามคดีสร้างอาคารพาณิชย์ย่านสถานีรถไฟไม่โปร่งใส สันนิษฐานเจ้าตัวมีคู่ความเยอะอาจถูกอุ้มไปทำร้าย หรืออาจหายไปเอง เพราะสติไม่ปกติหรือเพี้ยน ด้านน้องชายนายกมลยันพี่ชายไม่เพี้ยน เชื่อถูกอุ้มจริง

จากกรณีนายกมล เหล่าโสภาพันธ์ อายุ 49 ปี ชาวอำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสมาชิกเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่นและสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากขึ้นโรงพักเพื่อติดตามคดีร้องทุกข์ความไม่โปร่งใสในโครงการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ ย่านสถานีรถไฟ บ้านไผ่ และญาติระบุว่า ในคืนดังกล่าวนายกมลตั้งใจจะแจ้งข้อหาผกก.สภ.บ้านไผ่ ในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่

ล่าสุด พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่ากรณีการหายตัวไปของนายกมล เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้จัดหน่วยติดตามสืบหาข่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งสืบหารถยนต์นั่งซูบารุสีแดง ทะเบียน กค.400 ขอนแก่น ตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ รวมถึงหลักฐานพยานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะตามหานายกมลให้พบได้ในเร็ววัน เพราะการหายตัวไปของนายกมลมีหลายปมประเด็นที่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานไว้ 3 ประเด็นใหญ่

คือ 1.มีคู่กรณีที่นายกมลขึ้นโรงพักแจ้งความกล่าวโทษมากถึง 11 คดีความ ด้วยเหตุที่นายกมลอ้างว่าบุคคลเหล่านั้นปฏิบัติหรือประพฤติไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคู่กรณีเหล่านั้น อาจไม่พอใจนายกมลจนนำไปสู่การหายตัวไปของนายกมลก็ได้ 2.อาการของนายกมลอยู่ในภาวะสติไม่ปกติ หรือเรียกว่าเพี้ยน เป็นไปได้ที่จะหายไปโดยไม่บอกกล่าวกับทางบ้าน

3. นายกมลได้ยื่นขอเข้าโครงการคุ้มครองพยานมายังสำนักงานตำรวจภูธร ภาค 4 ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำประกันชีวิตในวงเงิน 20 ล้านบาท แต่พิจารณาจากข้อมูลแวดล้อมแล้ว ไม่เข้าเกณฑ์ จึงได้รับการปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้นายกมลอาจจะหนีหลบไปเก็บตัว เพื่อให้ดูสมเหตุสมผลที่จะได้รับการคุ้มครอง

“ข้อสันนิษฐานเหล่านี้ เรายังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไป ยังต้องสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลกันต่อ และอยากให้ญาติๆนายกมลรับทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำงานเพื่อสืบหานายกมลอยู่ ไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด”พล.ต.ต.ศักดากล่าว

ด้านนายประเสริฐ เหล่าโสภาพันธ์ น้องชายนายกมล กล่าวถึงข้อสันนิษฐานการหายตัวไปของนายกมลของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนขอยืนยันว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น แม้พี่ชายจะมีคู่ความหลายคดีก็จริง ซึ่งแต่ละคดีไม่มีมูลเหตุจูงใจมากพอที่คู่กรณีจะทำร้ายหรืออุ้มนายกมลหายไปหรือถึงขั้นต้องเอาชีวิตนายกมล ส่วนกรณีที่ว่าพี่ชายตนเพี้ยนจนเตลิดหนีออกจากบ้านไม่บอกครอบครัวนั้นก็ไม่เป็นความจริง นายกมลอยู่ในภาวะปกติทุกอย่าง เป็นห่วงลูกเมียมาก หนีไปเองจึงเป็นไปไม่ได้

ขณะที่ประเด็นยื่นขอรับความคุ้มครองโดยขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำประกันชีวิตเพราะกลัวไม่ปลอดภัยนั้นก็ไม่มีมูลความจริง เพราะนายกมลหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ แต่ตำรวจแจ้งว่าคำขอรับความคุ้มครองไม่เข้าเกณฑ์เพิ่งมาแจ้งกับครอบครัวนายกมลเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี้เอง

อย่างไรก็ตามแม้ขณะนี้ยังไม่มีร่องรอยวี่แววว่า จะพบเบาะแสนายกมล แต่ครอบครัวญาติพี่น้องก็จะพยายามสุดความสามารถที่จะหาให้พบ แม้จะเป็นเถ้ากระดูกก็ตาม ซึ่งตนและนายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่นเชื่อในเบื้องต้นว่า กรณีปัญหาโครงการสร้างอาคารพาณิชย์ย่านสถานีรถไฟบ้านไผ่ 15 คูหา เป็นกรณีปัญหาใหญ่ที่สุดที่นายกมลพยายามให้มีการตรวจสอบ และน่าจะมีแรงจูงใจสูงสุดต่อการหายตัวไปของนายกมล ซึ่งมีคู่กรณีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนกรณีที่พบศพยัดในกระสอบลอยมาตามลำน้ำโขง ด้านจังหวัดนครพนมเมื่อ2วันที่ผ่านมา จากการเดินทางไปตรวจพิสูจน์ของญาติๆนายกมลพบว่าไม่ใช่ศพนายกมล

สำหรับกรณีปัญหาการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ จำนวน 15 คูหาที่ย่านสถานีรถไฟ บ้านไผ่ นายกมลเห็นว่าการก่อสร้างผิดแบบไม่เป็นไปตามที่ขออนุญาตไว้ ละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 เช่น ช่องว่างระหว่างอาคารไม่ถึง 4 เมตร แต่เทศบาลบ้านไผ่กลับเซ็นรับงาน จึงไปขอดูแบบก่อสร้างกับกองช่างเทศบาลเมืองบ้านไผ่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ นายกมล จึงไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่เทศบาลฯกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่

ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจตามกฎหมายเรียกเก็บเอกสารจากเทศบาลฯ ให้มีการตรวจพิสูจน์ นำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงโครงสร้างอาคารให้เป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคารที่ระบุไว้ กระนั้นก็ตามเทศบาลบ้านไผ่ก็ไม่ยอมมอบเอกสารแบบแปลนให้กับตำรวจ

สำหรับการเสนอราคาเช่าที่ดินรถไฟ เพื่อก่อสร้างอาคารพาณิชย์ย่านสถานีรถไฟ บ้านไผ่ดังกล่าว มีผู้ยื่นเสนอราคา 2 ราย คือ นายนพดล เจือเจริญวสุชัย อาจารย์คณะทันตกรรม มข.และนายธเนศ อังวราวงค์ เจ้าหน้าที่แบงก์ชาติสำนักงานภาคอีสาน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพี่เขยนายนพดล

นายกมล อายุ 49 ปี เป็นเพื่อนร่วมรุ่น สมัยเรียนมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กับนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต่อต้านการคอร์รัปชั่น และเป็นสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน และยังเคลื่อนไหวตรวจสอบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ จนมาหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา
กำลังโหลดความคิดเห็น