ศูนย์ข่าวศรีราชา - แม่หลงว่าลูกชายชาวเยอรมันเป็นโรคลมชักจมน้ำตาย ที่แท้หลบขึ้นฝั่ง หลงทางเผชิญชีวิตเร่ร่อนข้างถนน 3 วัน 3 คืน โผล่สนามบินสุวรรณภูมิ
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 นางสุกัญญา ฉิมมาฉุย อายุ 42 ปี พนักงานบริษัท โกวาเคชั่น ทัวร์ ซึ่งเป็นผู้นำพากรุ๊ปทัวร์จากประเทศเยอรมนีเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้พาตัว นางเชิบ วาลเทราด์ (Mrs.SCHOEPP WALTRAID) อายุ 65 ปี ชาวเยอรมันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่า นายวานเนคเคอร์ โอลาฟ โลธาณ์ อูโด (MR. WARNECKE OLAF LOTHAUR UDO ) อายุ 42 ปี ได้หายตัวไปจากโรงแรมซันเซท วิลเลท หมู่ที่ 8 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่เวลา 11.00 น.ของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551 จนถึงบัดนี้ยังไม่พบ
ทั้งนี้ สงสัยว่า จมลงไปในทะเลขณะลงไปว่ายน้ำ หรืออาจหลบโขดหินขึ้นชายฝั่งเตลิดหายไปก็เป็นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทางทะเลได้ทำการช่วยค้นหาอย่างสุดความสามารถก็ไม่พบศพและรอจนถึงวันนี้ก็ไม่พบศพแต่อย่างใด จึงเชื่อว่า นายวานเนคเคอร์โอลาฟ โลธาณ์ อูโด ยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน
สำหรับความคืบหน้าในเรื่องนี้ พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ โดยเฉพาะตำรวจท่องเที่ยวให้ช่วยดำเนินการค้นหาและติดตามตัวชายชาวเยอรมัน จนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2551 ได้รับการประสานจากตำรวจท่องเที่ยว และบริษัท โกวาเคชั่น ทัวร์ ว่า ได้มีคนพบตัว นายวานเนคเคอร์ โอลาฟ โลธารณ์ อูโด อยู่ที่บริเวรสนามบินสุวรรณภูมิ จึงได้ไปรับตัวกลับมาหา นางเชิบ วาลเทราด์ (Mrs.SCHOEPP WALTRAID) อายุ 65 ปี ผู้เป็นแม่ซึ่งทำให้แม่ดีใจอย่างมากที่พบลูกและลูกยังมีชีวิตอยู่
พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จากการสอบถาม นายวานเนคเคอร์ โอลาฟ โลธาณ์ ให้การว่า ขณะที่ลงไปว่ายน้ำอยู่ชายหาด แล้วอ้อมโขดหินไปขึ้นชายหาดในช่วงเวลามืดทำให้หลงทาง จึงได้เดินเท้าเปล่าไปเรื่อยอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ได้พยายามสอบถามคนไทย แต่ไม่มีคนไทยพูดภาษาหรือสื่อสารกันได้เลย โชคดีที่มีเงินติดตัวไปจำนวน 200 ยูโร จึงได้ซื้ออาหาร เสื้อผ้า รองเท้าใส่ จนได้พบรถแท็กซี่พาไปส่งไว้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
บริษัทและตำรวจไปรับตัวมาหาแม่ที่พักอยู่ที่โรงแรมซันเซท สัตหีบ และมาถอนแจ้งความที่สถานีตำรวจ ซึ่งสร้างความประทับใจผู้เป็นแม่อย่างมาก และชมเชยตำรวจไทย และบริษัทที่พานักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยที่ไม่ทอดทิ้งนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ
