ก.เกษตรฯผลักดันการจัดหาแหล่งน้ำ-ช่วยเหลือชาวประมง ใน ตอ.

ศูนย์ข่าวศรีราชา -"สันต์ศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์" นั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยเตรียมผลักดันโครงการด้านการจัดหาแหล่งน้ำสำหรับเกษตรกร และแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายสำหรับชาวประมงทั้งในระดับประเทศ และในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก

นายสันต์ศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการร่วมประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ข้อมูลในเรื่องของการมอบนโยบายต่อข้าราชการภายในหน่วยงานที่สังกัดกระทรวง

โดยเน้นในเรื่องของการให้เกษตรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนมีอาหารบริโภคที่ปลอดภัยและสร้างรายได้ให้แผ่นดิน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ

สำหรับแนวทางการปฏิบัตินั้นได้กำหนดให้ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมายในการดำเนินการเป็น 3 ส่วนคือ

1.เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี คือ การหาแนวทางในการลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการเพิ่มราคาสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยการส่งเสริมและสนับสนุนการรวมตัวของเกษตรกรเพื่อวางแผน และดำเนินการผลิต และการตลาดในรูปแบบของสหกรณ์อเนกประสงค์ และตลาดกลางที่สนับสนุนโดยรัฐ รวมถึงการจัดหาแหล่งน้ำที่เหมาะสมและเพียงพอ การสร้างเกษตรรุ่นใหม่ และการจัดตั้งนิคมการเกษตร

2.ประชาชนมีอาหารบริโภคปลอดภัย โดยจะมีการตรวจสอบและรับรองคุณภาพความปลอดภัยผลผลิตจากภาคเกษตรกรรม กระบวนการผลิตอาหารในทุกขั้นตอนจะต้องรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีราคาจำหน่ายที่เหมาะสมและเป็นธรรม

3.สร้างรายได้ให้แผ่นดิน คือการมุ่งเน้นให้ผลผลิตทางการเกษตรในทุกสาขา ทั้งการเพาะปลูก การประมง และการปศุสัตว์ ที่จะสามารถสร้างรายได้ประชาชาติหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมได้อย่างแท้จริง รวมไปถึงการคืนความสมดุลสู่พื้นที่ชนบทภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

นายสันต์ศักย์ จรูญ ให้ข้อมูลต่อยอดในส่วนของพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกว่า ปัญหาภาคการเกษตรที่ทางจังหวัดภาคตะวันออกได้รับจะเป็นเรื่องของของการขาดแคลนน้ำอุปโภค และบริโภคแทบจะทุกภาคส่วน ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคเศรษฐกิจและสังคม ภาคประชาชน รวมไปถึงภาคเกษตรกรรม ซึ่งได้มีการประชุมร่วมเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร โดยประสานกรมชลประทาน และสำรวจข้อมูลของปริมาณน้ำดิบในอ่างกักเก็บน้ำต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำต่ออ่างเก็บน้ำให้เป็นระบบรวมทั้งหมด เพื่อที่จะสามารถดึงน้ำดิบมาใช้ยังพื้นที่ที่ขาดแคลนได้

นอกจากนี้ ยังต้องศึกษาและดำเนินการในเรื่องการขุดลอกคูคลองและอ่างตื้นเขิน ระบบการส่งน้ำ รวมถึงการสร้างอ่างกักเก็บน้ำสำรองเพิ่มในแต่ละพื้นที่ โดยในปีนี้มีการผลักดันโครงการที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งโครงการอาคารบังคับน้ำในแม่น้ำระยองจำนวน 2 แห่ง และโครงการการก่อสร้างประตูระบายน้ำทุ่งเบญจา จังหวัดจันทบุรี ซึ่งจะลงมือดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2551 นี้ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำสำหรับเกษตรกรในภาคตะวันออกอย่างยั่งยืน

ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยอีกว่า นอกจากนี้ได้ผลักดันโครงการสร้างพลังงานทดแทน เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตอ้อย มันสำปะหลัง และหอมหัวใหญ่ เพราะปัจจุบันเกษตรกรเหล่านี้ประสบปัญหาด้านสินค้าล้นตลาด จนทำให้ไม่มีราคา โดยหวังจะลดค่าใช้จ่าย และได้มีการพูดคุยกับตัวแทนของประเทศสหรัฐอเมริกา ในเรื่องของการประสานงานรับซื้อสินค้าการเกษตรดังกล่าวในเบื้องต้นแล้วอีกด้วย

ในส่วนทางด้านการประมงนั้นในพื้นที่ภาคตะวันออกมีจังหวัดที่ติดพื้นที่ชายฝั่งทะเลอยู่หลายจังหวัด จึงมีการพูดคุยและหาทางช่วยเหลือกลุ่มประมงพื้นบ้าน โดยถกคิดหาแนวทางที่จะช่วยสนับสนุน และแก้ปัญหาในเรื่องของเชื้อเพลิงหรือน้ำมันเดินเรือ สำหรับเรือประมง โดยหาแนวทางลดค่าใช้จ่าย ซึ่งมีการพูดคุยระหว่างประเทศชายฝั่งทะเลร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน

รวมถึงน่านน้ำรวม และภาคเอกชน ที่จะให้ความช่วยเหลือในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเชื้อเพลิงของกลุ่มประมงในเบื้องต้นไปแล้ว ซึ่งต้องรอผลความเป็นรูปธรรมชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งการแก้ไขปัญหาปากท้องให้ชาวประมงนั้นก็เป็นวาระสำคัญวาระหนึ่งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เช่นกัน