กองปราบฯ โชว์ฝีมือตะครุบฆาตกรโรคจิตฆ่าเปลือยรัดคอ ใช้ขวดน้ำอัดลมยัดจิ๋ม

ระยอง - ตำรวจกองปราบฯ โชว์ฝีมือรวบคนงานกรีดยางโรคจิต ฆ่าโหดเปลือยสาวลาวอายุ 18 ปี รัดคอมัดมือไพล่หลัง ใช้ขวดน้ำอัดลมยัดจิ๋ม หลังรับเงินค่าแรงกรีดยาง ย้อนกลับไปดูจุดเกิดเหตุเลยถูกรวบ เค้นจนรับสารภาพไม่สะทกสะท้าน เผยแค้นต้องฆ่าโหดเพราะคนตายเป็นคนลาวและเป็นญาติเมียลาวด้วยกันที่หนีไปพร้อมรถจักรยานยนต์

เวลา 02.00 น.วันนี้ (26 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามฝ่ายปฏิบัติการที่ 2 นำโดยพ.ต.อ.วิชิต ปักษา ผกก. ฝ่ายปฏิบัติการที่ 2 กองปราบปราม สั่งการให้ พ.ต.ท.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ พ.ต.ท.แมน รัตนโมรา รอง ผกก. พ.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขขะ สารวัตรฝ่ายปฏิบัติการที่ 2 ร.ต.อ.ทรงรักษ์ ขุนศรี สารวัตรฝ่ายปฏิบัติการที่ 2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ลงพื้นที่ จ.ระยอง ติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่าเปลือยสาวนิรนามแล้วใช้ขวดน้ำอัดลมยัดอวัยวะเพศ เหตุเกิดบนศาลาจุดชมวิว เขาหินควอทซ์ หมู่ 5 ต.สำนักทอง อ.เมืองระยอง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามนำกำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุบนศาลาจุดชมวิว หลังเดินทางลงจากเขาพบชายลักษณะต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวนทางขึ้นเขา จึงได้ย้อนกลับติดตามขึ้นไป ชายดังกล่าวมีท่าทางพิรุธจึงได้นำตัวมาสอบสวน ทราบชื่อนายนิวัฒน์ แถลงสัตย์ อายุ 23 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี เลขที่ 99/3 หมู่ 5 ต.สำนักทอง อ.เมืองระยอง ว่าขึ้นมาทำไม ชายคนดังกล่าวให้การปฏิเสธ

ต่อมานายนิวัฒน์ให้การรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้านว่า ขณะนี้ก็ยังเก็บความแค้นไว้อีกราย โดยเมื่อ 2 ปีก่อนถูกนายตุ๋ย บิดา ด.ญ.กาญจนา จำนามสกุลไม่ได้ แจ้งความกล่าวหาว่าตนกระทำชำเรา ด.ญ.กาญจนา แต่ตนให้การปฏิเสธในที่สุดศาลตัดสินยกฟ้อง เรื่องนี้แค้นมากเตรียมฆ่าชุดใหญ่รายต่อไป

นายนิวัฒน์ ให้การอีกว่า มีอาชีพรับจ้างกรีดยางบริษัท ไทยรับเบอร์ จำกัด ต.สำนักทองก่อนเกิดเหตุตนได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับนางสาวเจี๊ยบ สัญชาติลาวได้เพียง 7 วัน และพาไปซื้อรถจักรยานยนต์เงินผ่อนที่ร้านโชคชัยฮอนด้า อ.เมืองระยอง ตนเป็นผู้ค้ำประกันให้ หลังจากนั้นนางสาวเจี๊ยบได้หนีหายไปพร้อมรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จนถูกร้านโชคชัยฮอนด้าฟ้องเรียกเงินค้ำประกันจำนวน 50,000 บาท สร้างความโกรธแค้นให้กับตนมากและเก็บความแค้นไว้

นอกจากนี้ เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาได้รู้จักกับนางสาวเล็ก แสงสมบัติ อายุ 18 ปี สัญชาติลาว ทำงานปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ อยู่ อ.คลองเขต จ.ชลบุรี และมาทราบภายหลังว่านางสาวเล็กเป็นเพื่อนกับนางสาวเจี๊ยบภรรยาเก่า และเป็นคนลาวด้วยกันอีกด้วย

จนกระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ น.ส.เล็ก ได้โทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวทะเลด้วยกันที่ระยอง และได้นั่งรถโดยสารมาคอยที่บริเวณตลาดกลาง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ตนขับขี่รถจักรยานยนต์มารับไปเที่ยว จนกระทั่งตกเย็นได้ชวนกันขึ้นมาเที่ยวจุดชมวิวที่ ต.สำนักทอง
โดยแวะซื้อนำอัดลมมากินกัน 2 ขวด

ขณะนั่งคุยกันดูดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า น.ส.เล็ก เผลอ ตนใช้ท่อนแขนขวาฟาดต้นคอ อย่างแรง ทำให้ น.ส.เล็กวิ่งหนี ตนจึงวิ่งไล่ติดตามไปทันแล้วล็อกคอด้านหลัง ลากมาที่โต๊ะไม้ในศาลาจนร่าง น.ส.เล็กแน่นิ่ง จึงใช้มือสองข้างบีบคอซ้ำอย่างแรงจนแน่นิ่งไป จับถอดกางเกงยีนส์เอามารัดคอซ้ำ ถอดเสื้อคลุมสีดำมัดมือไพล่หลัง ถอดกางเกงในทิ้ง จากนั้นใช้ขวดน้ำอัดลมยัดอวัยวะเพศอย่างแรงด้วยความแค้น โดยที่ไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด แล้วหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามว่า พา น.ส.เล็ก ผู้ตายขึ้นไปจุดเกิดเหตุทางไหน นายนิวัฒน์ ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านความผิดว่า ตนขึ้นไปเที่ยวจดชมวิวบ่อยครั้ง และยังเคยมานอนพักห้องแถวใกล้จุดเกิดเหตุกับน้องชายที่พักอยู่ห้องแถวดังกล่าว รู้เส้นทางขึ้นเขาเป็นอย่างดี สาเหตุที่ใช้ขวดน้ำอัดลมยัดอวัยวะเพศเนื่องจากโกรธแค้นนางสาวเล็ก ผู้ตายเป็นเพื่อนกับนางสาวเจี๊ยบภรรยาที่หลบหนีไปพร้อมรถจักรยานยนต์ และยังเป็นคนลาวด้วยกัน ทำให้ตนถูกฟ้องเรียกเงินค้ำประกันเป็นเงิน 50,000 บาท

พ.ต.ท.แมน รัตนโมรา รอง ผกก.ฝ่ายปฏิบัติการที่ 2 กองปราบปราม ชุดจับกุม เปิดเผยว่า หลังได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูที่เกิดเหตุ แล้วเดินทางกลับระหว่างลงจากเขา สวนทางกับชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์สวนทางขึ้นเขา จึงย้อนกลับตามไปดูเห็นชายต้องสงสัยไปยืนดูตรงจุดเกิดเหตุ มีท่าทางสงสัยจึงเข้าไปสอบถามแต่ให้การปฏิเสธไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเพราะให้การมีพิรุธจึงนำตัวลงมาสอบสวนที่ สภ.สำนักทอง

จนในที่สุดก็ยอมเปิดปากรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน และไม่เกรงกลัวความผิด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่านายนิวัฒน์ ผู้ต้องหาน่าจะเป็นคนโรคจิตฆ่าเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม แต่ไม่ได้ลงมือข่มขืน สาเหตุพียงแค่ผู้ตายเป็นคนลาวและเป็นเพื่อน น.ส.เจี๊ยบ เมียเก่าที่หนีไปพร้อมรถจักรยานยนต์ที่ค้ำประกันไว้จนถูกฟ้องให้ชำระเงินค้ำประกันเป็นจำนวน 50,000 บาท จึงพกความแค้นไว้

ต่อมาเมื่อเวลา 03.00 น.วันเดียวกัน นางขวัญตา อินทิลาด สัญชาติลาว อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวของ น.ส.เล็ก ผู้ตายเดินทางมาให้ปากคำที่ สภ.ต.สำนักทองกลางดึก ต่อหน้า พ.ต.ท.มนูญ เจริญศรี พนักงานสอบสวน ลงมือสอบสวนทันที นางขวัญตา กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุ น.ส.เล็ก ซึ่งทำงานอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน จ.ชลบุรี มาบอกว่าเพื่อนโทรมาชวนไปเที่ยวทะเล และเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ มาส่ง น.ส.เล็ก มาลงที่ปากซอยถนนใหญ่ จากนั้นก็ไม่ทราบว่าหลานสาวจะมาถูกฆ่าตาย

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบและสอบถามรายละเอียดว่าผู้ตายเป็นหลานสาวจริง จึงเดินทางมาให้ปากคำต่อหน้านายนิวัฒน์ ผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งรวบรวมหลักฐานให้เสร็จ แล้วรายงานให้ พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.ระยอง ทราบโดยด่วน ก่อนมีการนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวต่อไป