ระยอง - คดีข่มขืนฆ่าโหดสาวนิรนาม ใช้ขวดน้ำอัดลมยัดอวัยวะเพศทิ้งศพไว้บนศาลาจุดชมวิว ที่ระยองยังไม่คืบ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีข่มขืนฆ่าโหดสาวนิรนาม ใช้ขวดน้ำอัดลมยัดอวัยวะเพศ ทิ้งศพไว้บนศาลาจุดชมวิว เขาหินควอทซ์ หมู่ 5 ต.สำนักทอง อ.เมืองระยอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.พ.) พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.ระยอง กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพนักงาน รักษาความปลอดภัยของ สวนเกษตรเดอะปาร์ค ผู้จัดการสวนเกษตรและคนงาน ทราบเบื้องต้นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใดที่ขึ้นมาเที่ยวจุดชมวิวที่เกิดเหตุเป็นประจำ สามารถระบุกลุ่มวัยรุ่นนี้ได้ แต่อุปสรรคมันอยู่ที่ยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน ขณะนี้กำลังประสานผู้บังคับการสถาบันนิติเวช ที่กำลังผ่าพิสูจน์ศพ
พ.ต.อ.ประสาน บุญเหมือน รอง ผบก.ภ.จ.ระยอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สำนักทองและชุดสืบสวนภูธร จ.ระยอง ออกตรวจสอบสถานบริการในพื้นที่สำนักทองและ สภ.เพ เนื่องจากคาดว่าผู้ตายจะเป็นคนทำงานสถานบริการ หลังทราบว่ามีการแจ้งคนหาย จึงเข้าตรวจสอบสถานบริการหลายแห่งที่บ้านเพ
แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างเลือกตั้ง ส.ว.ล่วงหน้า สถานบริการดังกล่าวปิด จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ คาดว่าจันทร์นี้คงจะมีความคืบหน้าและขณะนี้ได้รับรายงานมีการแจ้งความคนหายไว้ที่ จ.ปทุมธานีเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อนายคมกฤษณ์ เที่ยงสัตย์ อายุ 27 ปี ให้ไปดูศพที่สถาบันนิติเวช กรุงเทพ เนื่องจาก น.ส.ชมชื่น นภาสวัสดิ์ อายุ 29 ปี ภรรยา เลขที่ 51/ 393 หมู่ 7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ทำงานเป็นแม่บ้านแห่งหนึ่ง หายออกจากบ้านไปหลายวันแล้ว
วันเดียวกัน นายยอด บุตมะ อายุ 20 ปี เลขที่ 243/7 หมู่ 5 ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง เข้าพบผู้สื่อข่าวขอดูรูปผู้ตาย สงสัยจะเป็นพี่สาวหรือไม่ เนื่องจากหายออกจากบ้านไปเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ครั้งแรกพิจารณาแล้วคาดว่าน่าจะใช่แต่หลังจากไปตามแม่มาดูอีกครั้ง และกล่าวว่าลูกสาวตนเคยผ่าตัดที่ท้องคลอดลูก 2 ครั้งจะมีรอยผ่า 2 แผลที่หน้าท้อง แต่ปรากฏว่าไม่มีรอยแผล สรุปแล้วไม่ใช่
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า จากหลักฐานที่พบขวดน้ำอัดลมในที่เกิดเหตุมี 2 ขวด มั่นใจว่า คนร้ายน่าจะมากกว่า 1 คนแน่นอน จากการตรวจสอบร้านจำหน่ายน้ำอัดลมยี่ห้อดังกล่าวขนาด 600 ซีซีในพื้นที่สำนักทอง ปรากฏว่า ไม่มีร้านขายน้ำอัดลมชนิดนี้แม้แต่ร้านเดียว คนร้ายน่าจะซื้อมาจากที่อื่น แต่ต้องเป็นคนในพื้นที่เพราะรู้ทางขึ้นได้เป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีข่มขืนฆ่าโหดสาวนิรนาม ใช้ขวดน้ำอัดลมยัดอวัยวะเพศ ทิ้งศพไว้บนศาลาจุดชมวิว เขาหินควอทซ์ หมู่ 5 ต.สำนักทอง อ.เมืองระยอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.พ.) พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.ระยอง กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพนักงาน รักษาความปลอดภัยของ สวนเกษตรเดอะปาร์ค ผู้จัดการสวนเกษตรและคนงาน ทราบเบื้องต้นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใดที่ขึ้นมาเที่ยวจุดชมวิวที่เกิดเหตุเป็นประจำ สามารถระบุกลุ่มวัยรุ่นนี้ได้ แต่อุปสรรคมันอยู่ที่ยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน ขณะนี้กำลังประสานผู้บังคับการสถาบันนิติเวช ที่กำลังผ่าพิสูจน์ศพ
พ.ต.อ.ประสาน บุญเหมือน รอง ผบก.ภ.จ.ระยอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สำนักทองและชุดสืบสวนภูธร จ.ระยอง ออกตรวจสอบสถานบริการในพื้นที่สำนักทองและ สภ.เพ เนื่องจากคาดว่าผู้ตายจะเป็นคนทำงานสถานบริการ หลังทราบว่ามีการแจ้งคนหาย จึงเข้าตรวจสอบสถานบริการหลายแห่งที่บ้านเพ
แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างเลือกตั้ง ส.ว.ล่วงหน้า สถานบริการดังกล่าวปิด จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ คาดว่าจันทร์นี้คงจะมีความคืบหน้าและขณะนี้ได้รับรายงานมีการแจ้งความคนหายไว้ที่ จ.ปทุมธานีเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อนายคมกฤษณ์ เที่ยงสัตย์ อายุ 27 ปี ให้ไปดูศพที่สถาบันนิติเวช กรุงเทพ เนื่องจาก น.ส.ชมชื่น นภาสวัสดิ์ อายุ 29 ปี ภรรยา เลขที่ 51/ 393 หมู่ 7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ทำงานเป็นแม่บ้านแห่งหนึ่ง หายออกจากบ้านไปหลายวันแล้ว
วันเดียวกัน นายยอด บุตมะ อายุ 20 ปี เลขที่ 243/7 หมู่ 5 ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง เข้าพบผู้สื่อข่าวขอดูรูปผู้ตาย สงสัยจะเป็นพี่สาวหรือไม่ เนื่องจากหายออกจากบ้านไปเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ครั้งแรกพิจารณาแล้วคาดว่าน่าจะใช่แต่หลังจากไปตามแม่มาดูอีกครั้ง และกล่าวว่าลูกสาวตนเคยผ่าตัดที่ท้องคลอดลูก 2 ครั้งจะมีรอยผ่า 2 แผลที่หน้าท้อง แต่ปรากฏว่าไม่มีรอยแผล สรุปแล้วไม่ใช่
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า จากหลักฐานที่พบขวดน้ำอัดลมในที่เกิดเหตุมี 2 ขวด มั่นใจว่า คนร้ายน่าจะมากกว่า 1 คนแน่นอน จากการตรวจสอบร้านจำหน่ายน้ำอัดลมยี่ห้อดังกล่าวขนาด 600 ซีซีในพื้นที่สำนักทอง ปรากฏว่า ไม่มีร้านขายน้ำอัดลมชนิดนี้แม้แต่ร้านเดียว คนร้ายน่าจะซื้อมาจากที่อื่น แต่ต้องเป็นคนในพื้นที่เพราะรู้ทางขึ้นได้เป็นอย่างดี