xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออกหัตถกรรมเหนือยอดวูบ-ปิดกิจการแล้วกว่า 10 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่- สมาคมผู้ผลิตและส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ (NOHMEX) โอด พิษเงินบาท ทำออเดอร์หาย ต้องปิดกิจการไปแล้วร่วม 10 ราย วอนรัฐบาลใหม่ทบทวนกรณีกรมส่งเสริมการส่งออกระงับความช่วยเหลือเรื่องส่วนลด ทั้งขอความช่วยเหลือด้านภาษีและการเงินก่อนจะมีการปิดกิจการไปมากกว่านี้ ติงภาครัฐที่แนะนำแต่การหาตลาดใหม่ทั้งที่สินค้าหัตถกรรมเป็นสินค้าของลูกค้าเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แนะทางรอดเฉพาะหน้าให้สมาชิกเจรจาลูกค้าต่างประเทศให้เปลี่ยนเป็นเงินสกุลอื่นแทนดอลลาร์สหรัฐประกันความเสี่ยง

นายณัฐพงษ์ หาญภัทรไชยกูล นายกสมาคมผู้ผลิตและส่งออกสินค้าหัตถกรรม ภาคเหนือ (NOHMEX) เปิดเผยถึงมูลค่าการซื้อขายสินค้าของสมาชิกในกลุ่มของสมาคมฯเมื่อปี 2550 ว่ามีมูลค่าการซื้อขายลดลงกว่า 10% ในขณะที่ปี 2549 มีมูลค่าถึง 3,000 ล้านบาท โดยปี 2551 อาจจะลดเป้าลงไปจากเดิมอีก 15% สาเหตุเพราะปัญหาเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นไปเรื่อยๆ และราคาน้ำมันซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการขนส่งสินค้า เพื่อการส่งออกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้มีบริษัทเริ่มทยอยปิดตัวลงไปแล้วเกือบ 10 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ผลิตสิ่งประดิษฐ์จากไม้ไผ่ สิ่งทอ กระดาษสา และเซรามิก เพราะไม่สามารถแบกรับภาระดังกล่าวได้

ดังนั้น กลุ่มผู้ประกอบการที่เหลือก็ต้องเร่งปรับตัวให้เหมาะสมกับภาวะที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด บางรายขอให้บริษัทที่ทำการค้าให้หลีกเลี่ยงการชำระเงินในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ให้ชำระเป็นเงินสกุลอื่นแทน เช่น เปลี่ยนเป็นเงินสกุลยูโรหรือเงินเยน เป็นต้น และพยายามลดต้นทุนในการผลิตสินค้าให้ต่ำที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางรายก็ย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศจีน เพราะต้นทุนถูกกว่าประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 30%

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ให้ความช่วยเหลือและทบทวน คือ กรณีที่ทุกปีจะมีการออกไปร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะงานช่วงเดือนเมษายนและตุลาคม ทุกปีกรมส่งเสริมการส่งออกจะมีส่วนลดให้แก่สมาคมฯเพื่อนำไปให้การช่วยเหลือเกี่ยวกับการเดินทางและส่วนลดอื่นๆ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบูทแสดงสินค้าต่าง ๆ แต่ปีนี้ปรากฏว่า กรมส่งเสริมฯได้แจ้งว่าจะระงับการช่วยเหลือเรื่องส่วนลดทั้งหมด ซึ่งหากสมาคมฯและผู้ส่งออกไม่มีส่วนลด ก็จะทำให้ต้นทุนในการออกไปร่วมงานแสดงสินค้าเพิ่มขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ ในเรื่องของนโยบายเกี่ยวกับยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ที่ให้พาณิชย์จังหวัดทำหน้าที่เป็นผู้นำยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจนั้นเห็นว่า ในความเป็นจริงหน้าที่นี้ควรเป็นของศูนย์ส่งเสริมการส่งออกน่าจะดีกว่า เพราะมีศักยภาพและความพร้อมในเรื่องข้อมูลที่ทำกันมานาน ส่วนหน้าที่ของพาณิชย์น่าจะเกี่ยวกับสินค้าภายในประเทศจะเหมาะกว่า

ขณะเดียวกัน ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขเรื่องภาษีโดยขอให้ลดภาษีรายได้นิติบุคคลให้เหลือร้อยละ 5 หรือแม้แต่เรื่องของการแทรกแซงค่าเงินบาทก็น่าจะลดบทบาทลงไป ขณะเดียวกัน รัฐบาลน่าที่จะเข้ามาเร่งให้มีการก่อสร้างรถไฟรางคู่ เนื่องจากการขนส่งถือเป็นหัวใจหลักและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทุกปี หากการขนส่งโดยใช้ระบบรางเข้ามาช่วยก็เชื่อว่าปัญหาเรื่องต้นทุนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับขนส่งจะลดลงไปได้มาก

“ปัจจุบันผู้ประกอบการจะต้องจ้างหัวลากมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาลากตู้คอนเทนเนอร์ลงไปส่งสินค้าถึงท่าเรือมาบตาพุด โดยค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งเฉพาะค่าลากรถเปล่าไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นบาทต่อเที่ยว ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก ฉะนั้นสินค้าที่ไปจากประเทศไทยราคาจึงสูงกว่าประเทศอื่นเพราะต้นทุนเหล่านี้” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายกสมาคม กล่าวต่อไปอีกว่า แม้ภาครัฐจะพยายามแนะนำให้ภาคเอกชนหาตลาดใหม่ๆ แทนที่ตลาดเดิมก็ตามแต่ ในสภาพความเป็นจริงแล้วสินค้าประเภทหัตถกรรมที่สมาชิกของสมาคมฯผลิต ส่วนใหญ่เป็นงานฝีมือระดับไฮเอนด์ ฉะนั้นกลุ่มลูกค้าจึงมีเฉพาะกลุ่ม และไม่ใช่ตลาดที่เป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่สนใจเฉพาะสินค้าที่เป็นประเภทอุปโภคบริโภคเท่านั้น

การหาตลาดใหม่ของสินค้าประเภทหัตถกรรมจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และคงต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่ต้องเร่งส่งเสริมการขยายตลาดใหม่นอกเหนือจากตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ที่เป็นประเทศคู่ค้าหลัก โดยต้องส่งเสริมให้ความรู้พื้นฐานต่อประเทศคู่ค้าใหม่แถบยุโรปตะวันออก อเมริกาใต้ ละติน และเอเชีย เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการ ค้าขายเพิ่มมากขึ้นและเพื่อให้การซื้อขายเป็นไปอย่างสะดวก ประการสุดท้ายต้องมีการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้แรงงานไทย และบริษัทที่เป็นของคนไทยในการส่งออกสินค้า

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิกของสมาคมฯให้สามารถอยู่รอดภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ไม่เฉพาะของประเทศไทยเท่านั้น แต่ให้มีการมองภาพรวมไปถึงตลาดต่างประเทศต่าง ๆ โดยประมาณกลางเดือนมีนาคม สมาคมฯจะจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้แก่สมาชิกในหัวข้อ “พบ 5 เซียนผู้ส่งออกเหนือ” โดยจะมีการเชิญผู้ส่งออกที่เชี่ยวชาญเฉพาะธุรกิจซึ่งเป็นผู้ส่งออกของภาคเหนือในกลุ่มธุรกิจ 5 ประเภท คือ ไม้ กระดาษสา ผ้า เซรามิกและจิวเวลรี

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ส่งออกรายใหญ่เหล่านี้ มาบอกกล่าวเล่าความจริงและร่วมกันหาทางออกให้แก่ผู้ส่งออกหรือผู้ที่ต้องการเป็นผู้ส่งออกได้เรียนรู้และรับทราบปัญหาต่างๆ เพื่อช่วยกันเสนอรัฐบาลและหาทางแก้ไขร่วมกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น