เชียงราย - ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สั่งสอบขยายขบวนการสวมบัตร-นำพาคนต่างด้าวเข้าเมืองเพิ่มเติม หลัง จนท.จับชาวเขาเผ่าลั๊วะ ถือบัตรประชาชนคนไทย นำพาบุคคลต่างด้าว เข้ามาดำเนินการเพื่อขอมีบัตรแถบแม่เหล็ก (สีชมพู) ตราสิงห์
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มีคำสั่งให้นายประพันธุ์ ภู่ทอง นายอำเภอพาน เร่งสอบสวนขยายผลกรณีตำรวจ สภ.พาน ร่วมตำรวจสืบสวนจังหวัดเชียงราย จับกุมตัวนายวัลลภ พี่ใหญ่ และนายวุฒิ นุวัฒน์ ชาวเขาเผ่าลั๊วะ ถือบัตรประชาชนคนไทยอยู่ที่ ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย ตั้งขบวนการนำพาบุคคลต่างด้าว
โดยนำพา นายแรม ตาคำ อายุ 27 ปี นายบุญแสง อินทะวงค์ อายุ 22 ปี นางสาวนันทนา อินทะวงค์ อายุ 20 ปี ชาวเขาเผ่าลั๊วะจากชายแดน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เข้ามาดำเนินการเพื่อขอมีบัตรแถบแม่เหล็ก (สีชมภู) ตราสิงห์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ที่ว่าการอำเภอพาน แต่ถูกติดตามจับกุมตัวไว้ได้เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2551 ที่ผ่านมา
โดยให้สอบสวนลงลึกในประเด็นที่ว่า ขบวนการช่วยเหลือนำพาบุคคลต่าวด้าวไร้สถานะกลุ่มนี้ มีเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องในขบวนการอย่างไรบ้าง โดยให้เร่งสอบสวนและให้รายงานมาให้จังหวัดรับทราบโดยด่วน
ขณะที่ พ.ต.อ.มาโนช มีสกุลคุณ ผกก.สภ.พาน สั่งการให้ พ.ต.ท.มานิตย์ จันทะยศ พนักงานสอบสวน ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขัง ก่อนขออนุญาตศาลเบิกตัวนายวัลลภและนายวุฒิ หัวหน้าแก๊ง มาสอบสวนขยายผล เพื่อโยงว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อยู่เบื้องหลังมีใครบ้าง เพื่อเร่งจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการให้ได้โดยเร็ว ซึ่งพบหลักฐานของกลุ่มผู้นำบางกลุ่ม ที่ร่วมในขบวนการนี้แล้ว
พ.ต.อ.มาโนช กล่าวว่า เชื่อว่า ยังมีขบวนการที่อยู่เบื้องหลังแน่นอน เพราะลำพังคนต่างด้าวธรรมดา คงไม่กล้าที่จะนำพาบุคคลต่างด้าวด้วยกัน เข้ามาทำเอกสารของกระทรวงมหาดไทย แต่ต้องมีผู้ที่มีอำนาจ หรือคนของรัฐบางส่วน ให้การหนุนหลัง โดยมีผลประโยชน์ร่วมกัน จนทำให้เกิดการนำพาบุคคลต่างด้าวจากนอกพื้นที่ เข้าสวมสวมรอยอาศัยในพื้นที่ อ.พาน ก่อนมาวิ่งเต้นเดินเรื่องติดต่อทำเอกสารบัตรกรมการปกครองให้
ด้าน นายเฉลิมวุฒิ รักขติวงศ์ ปลัดอาวุโส อ.พาน กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการวิ่งเต้นเพื่อให้ต่างด้าวไร้สถานะได้ถือบัตรแบบใหม่ของกรมการปกครอง ที่มีลักษณะบัตรเป็นแถบแม่เหล็ก สีชมภู มีตราสิงห์ กรมการปกครองประทับรับรอง ไม่ใช่การสวมบัตรประชาชน ซึ่งกระบวนการตรวจสอบจะเรียกสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐและคนที่ได้รับการแต่งตั้งทั้งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้รับรองสถานะคนต่างต่างด้าวว่ามีการยื่นเอกสารเก่าหรือใหม่ หรือมีการสวมรอยรับรองเช่นไร จุดนี้ตรวจสอบไม่ยากและเชื่อว่าจะเป็นขบวนการที่นำพาคนต่างด้าวจากนอกพื้นที่ เข้ามาดำเนินการ หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายทันที
สำหรับปัญหาเรื่องการตั้งขบวนการนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาสวมเอกสารบัตร กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าก่อนหน้านี้นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการเชียงราย จะเซ็นคำสั่งย้าย 2 ปลัดอำเภอแม่สายและดำเนินคดีอาญากับลูกจ้างชั่วคราว อ.แม่สาย พร้อมพวกที่ตั้งแก๊งนำต่างด้าวเข้ามาสวมทำบัตรโดยผิดกฎหมาย เรียกรับผลประโยชน์ร่วมกัน จนเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วเมื่อปลายปี 2550 ก็ตาม แต่ยังไม่สามารถถอนรากถอนโคนขบวนการนี้ได้หมดสิ้น ซึ่งล่าสุดเกิดใน อ.พาน ที่มีการนำพาต่างด้าวจาก อ.แม่ฟ้าหลวง มาสวมเอกสารยังต่างถิ่น นับว่าเป็นเครือข่ายที่ท้าทายอำนาจรัฐอย่างมาก
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มีคำสั่งให้นายประพันธุ์ ภู่ทอง นายอำเภอพาน เร่งสอบสวนขยายผลกรณีตำรวจ สภ.พาน ร่วมตำรวจสืบสวนจังหวัดเชียงราย จับกุมตัวนายวัลลภ พี่ใหญ่ และนายวุฒิ นุวัฒน์ ชาวเขาเผ่าลั๊วะ ถือบัตรประชาชนคนไทยอยู่ที่ ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย ตั้งขบวนการนำพาบุคคลต่างด้าว
โดยนำพา นายแรม ตาคำ อายุ 27 ปี นายบุญแสง อินทะวงค์ อายุ 22 ปี นางสาวนันทนา อินทะวงค์ อายุ 20 ปี ชาวเขาเผ่าลั๊วะจากชายแดน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เข้ามาดำเนินการเพื่อขอมีบัตรแถบแม่เหล็ก (สีชมภู) ตราสิงห์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ที่ว่าการอำเภอพาน แต่ถูกติดตามจับกุมตัวไว้ได้เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2551 ที่ผ่านมา
โดยให้สอบสวนลงลึกในประเด็นที่ว่า ขบวนการช่วยเหลือนำพาบุคคลต่าวด้าวไร้สถานะกลุ่มนี้ มีเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องในขบวนการอย่างไรบ้าง โดยให้เร่งสอบสวนและให้รายงานมาให้จังหวัดรับทราบโดยด่วน
ขณะที่ พ.ต.อ.มาโนช มีสกุลคุณ ผกก.สภ.พาน สั่งการให้ พ.ต.ท.มานิตย์ จันทะยศ พนักงานสอบสวน ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขัง ก่อนขออนุญาตศาลเบิกตัวนายวัลลภและนายวุฒิ หัวหน้าแก๊ง มาสอบสวนขยายผล เพื่อโยงว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อยู่เบื้องหลังมีใครบ้าง เพื่อเร่งจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการให้ได้โดยเร็ว ซึ่งพบหลักฐานของกลุ่มผู้นำบางกลุ่ม ที่ร่วมในขบวนการนี้แล้ว
พ.ต.อ.มาโนช กล่าวว่า เชื่อว่า ยังมีขบวนการที่อยู่เบื้องหลังแน่นอน เพราะลำพังคนต่างด้าวธรรมดา คงไม่กล้าที่จะนำพาบุคคลต่างด้าวด้วยกัน เข้ามาทำเอกสารของกระทรวงมหาดไทย แต่ต้องมีผู้ที่มีอำนาจ หรือคนของรัฐบางส่วน ให้การหนุนหลัง โดยมีผลประโยชน์ร่วมกัน จนทำให้เกิดการนำพาบุคคลต่างด้าวจากนอกพื้นที่ เข้าสวมสวมรอยอาศัยในพื้นที่ อ.พาน ก่อนมาวิ่งเต้นเดินเรื่องติดต่อทำเอกสารบัตรกรมการปกครองให้
ด้าน นายเฉลิมวุฒิ รักขติวงศ์ ปลัดอาวุโส อ.พาน กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการวิ่งเต้นเพื่อให้ต่างด้าวไร้สถานะได้ถือบัตรแบบใหม่ของกรมการปกครอง ที่มีลักษณะบัตรเป็นแถบแม่เหล็ก สีชมภู มีตราสิงห์ กรมการปกครองประทับรับรอง ไม่ใช่การสวมบัตรประชาชน ซึ่งกระบวนการตรวจสอบจะเรียกสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐและคนที่ได้รับการแต่งตั้งทั้งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้รับรองสถานะคนต่างต่างด้าวว่ามีการยื่นเอกสารเก่าหรือใหม่ หรือมีการสวมรอยรับรองเช่นไร จุดนี้ตรวจสอบไม่ยากและเชื่อว่าจะเป็นขบวนการที่นำพาคนต่างด้าวจากนอกพื้นที่ เข้ามาดำเนินการ หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายทันที
สำหรับปัญหาเรื่องการตั้งขบวนการนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาสวมเอกสารบัตร กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าก่อนหน้านี้นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการเชียงราย จะเซ็นคำสั่งย้าย 2 ปลัดอำเภอแม่สายและดำเนินคดีอาญากับลูกจ้างชั่วคราว อ.แม่สาย พร้อมพวกที่ตั้งแก๊งนำต่างด้าวเข้ามาสวมทำบัตรโดยผิดกฎหมาย เรียกรับผลประโยชน์ร่วมกัน จนเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วเมื่อปลายปี 2550 ก็ตาม แต่ยังไม่สามารถถอนรากถอนโคนขบวนการนี้ได้หมดสิ้น ซึ่งล่าสุดเกิดใน อ.พาน ที่มีการนำพาต่างด้าวจาก อ.แม่ฟ้าหลวง มาสวมเอกสารยังต่างถิ่น นับว่าเป็นเครือข่ายที่ท้าทายอำนาจรัฐอย่างมาก