มหาสารคาม -พบผู้ใหญ่บ้านตัวอย่างใน จ.มหาสารคาม น้อมนำพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นจากเดิม อีกทั้งยังได้ขยายผลไปสู่ลูกบ้าน ช่วยให้สามารถลดปัญหาด้านสังคมลงได้เป็นอย่างดี
นายหนม แม้นสุรา ผู้ใหญ่บ้านหนองยาว ตำบลเมืองเสือ อำเภอพยัฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาตนได้น้อมนำปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อให้พออยู่พอกิน ในพื้นที่ว่างเปล่าหลังบ้าน 1 ไร่ 1 งาน ทุกตารางนิ้วให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน
เริ่มจากการปรับพื้นที่ให้ลงตัวจัดบริเวณไว้เลี้ยงสัตว์ ประเภท เป็ด ไก่ และเลี้ยงหมู ควบคู่กับการขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกไม้ผล และพืชผัก โดยใช้การปลูกแบบผสมผสาน โดยปลูกทุกอย่างที่กินได้ หากเหลือก็จะนำไปขาย พืชผักที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็นประเภท ถั่วฝักยาว หอมแบ่ง ยี่หร่า ฝรั่งชีฝรั่ง พืชผักสมุนไพร และอื่นๆ ซึ่งจะไม่มีการใช้สารเคมีในแปลงพืชโดยเด็ดขาด เพื่อช่วยลดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชที่ใช้ร่วมกันพืชสมุนไพร และเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของตนเอง
รูปแบบดังกล่าวทำมานานแล้วกว่า 5 ปี ส่งผลให้ผลผลิตการเกษตรในแปลงเหลือจากการใช้เป็นอาหารในครัวเรือน จึงเก็บไปขาย รวมถึงมีพ่อค้าคนกลางมาติดต่อรับซื้อถึงบ้าน เนื่องจากพ่อค้าคนกลาง รู้ว่าในแปลงผักของตนไม่มีการใช้สารเคมี สามารถนำไปขายได้ง่าย ลูกค้าชอบซื้อ เพราะผักหวานกรอบ ปลอดจากสารพิษ ทำให้มีรายได้ไม่กว่าวันละ 600 บาท เมื่อหักรายจ่ายต่อเดือนแล้ว มีเงินสดเหลือออม กว่าเดือนละ 6,000 บาท
จากความสำเร็จได้รับการจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ และจุดถ่ายทอดความรู้ศูนย์เกษตรประจำตำบลตำบล ทำให้มีผู้สนใจเข้าศึกษาเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตนได้ชักชวนลูกบ้านในหมู่บ้าน รวมแล้วกว่า 100 ราย ปลูกพืชผักที่กินได้มาแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นลูกบ้านไม่ให้ความร่วมมือ เนื่องจากกลัวว่าพืชผักที่ตนปลูกจะถูกลูกบ้านด้วยลักขโมย
เมื่อตนรณรงค์ให้ลูกบ้านทุกบ้านปลูกพืชผักสวนครัว ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อลูกบ้านทุกครัวเรือนปลูก จึงสามารถลดปัญหาด้านสังคมในการลักขโมยได้เป็นอย่างดี สิ่งใดขาดเหลือก็สามารถแบ่งปันกันได้ โดยมีผลมาจากทุกครัวเรือนมีอยู่มีกินอย่างเพียงพอ จึงไม่ต้องไปเบียดเบียนซึ่งกันและกันอีกต่อไป
