ประสบการณ์ในการทำงานประเทศสิงคโปร์เป็นเวลา 3 ปี ทำให้ได้ซึมซับวัฒนธรรมและความเปลี่ยนในด้านต่างๆ ที่มักจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับเปลี่ยนบ้านเมืองอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ปลูกสร้างที่พยายามคิดค้นวัสดุน้ำหนักเบา สะดวกในการขนย้าย และลดต้นทุนในเรื่องค่าแรงงานและวัตถุดิบ ด้วยการใช้โฟมที่ถือเป็นวัสดุที่ย่อยสลายยาก มาทำให้เกิดประโยชน์ และสามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ จนกลายมาเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Super Cement (ซูเปอร์ซีเมนต์)ที่ใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทุกรูปแบบ
นายวิชัย พัทยาอารยา เจ้าของ บริษัท กรีนโซน จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจนี้เป็นจุดเริ่มต้นในวงการของการสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไทย โดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องน้ำหนัก และต้นทุนจากปูนซีเมนต์ที่ราคามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะผลิตเป็นก้อนหิน รั้วไม้ น้ำตก น้ำพุ หรือแม้กระทั่งสระว่ายน้ำที่สามารถหันมาใช้ซูเปอร์ซีเมนต์มาทดแทนได้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมจากต่างประเทศ โดยจะมีการนำเข้าเพียงน้ำยา เพื่อนำมาสร้างแรงยึดเกาะระหว่างซีเมนต์ และโฟม ให้มีความแข็งแรงทนทานขึ้น
“ที่ผ่านมาการก่อสร้างต่างๆ จะต้องใช้ปูนซีเมนต์เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งมักประสบปัญหาในเรื่องของน้ำหนักที่มาก และยากต่อการขนย้าย รวมถึงหากเกิดปัญหาแตกร้าว รั่ว ก็จะซ่อมแซมลำบาก และไม่สามารถแก้ปัญหารอยรั่วได้อย่างถาวร ดังนั้นเมื่อเราเห็นนวัตกรรมใหม่นี้ จึงคิดที่จะเป็นตัวแทนนำเข้าน้ำยา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อนำมาเป็นวัสดุทดแทนการใช้ปูนซีเมนต์ ซึ่งมีราคาถูกกว่าการใช้วัสดุอื่นๆ โดยเฉพาะไฟเบอร์กลาส ซึ่งสามารถการันตีความแข็งแกร่งจากการใช้งานจริงให้หลายแห่งที่มีชื่อเสียง เช่น Under Water World และดิสนีย์แลนด์ สหรัฐฯ”
ทั้งนี้ในต่างประเทศถือว่าซูเปอร์ ซีเมนต์ เป็นวัสดุที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมานานกว่า 40 ปี แต่สำหรับในไทยทางบริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีนี้เข้ามาประมาณ 3 ปี ซึ่งมีจุดเด่นคือ น้ำหนักเบา ดีไซน์ง่ายได้งานละเอียด และใช้เวลาผลิตสั้น ซึ่งขั้นตอนการผลิตจะนำโฟมมาตัดด้วยเลเซอร์ตามต้องการ และนำมาผสมกับน้ำยา และปูนซีเมนต์ เพื่อให้ยึดเกราะ เพิ่มความแข็งแรง สุดท้ายจึงนำไปทาสี ตามต้องการ เลียนแบบธรรมชาติ เช่น ก้อนหิน น้ำตก อิฐ ไม้ บ่อเลี้ยงปลา สระว่ายน้ำและแผ่นปูน เป็นต้น
“ธุรกิจนี้ถือว่าเป็นการช่วยลดขยะ และช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงแต่นำโฟมมาใช้เป็นวัสดุในการขึ้นรูปแล้ว ยังสามารถนำวัสดุเหลือใช้อย่างกระถางต้นไม้ ตะกร้าพลาสติก ถังน้ำพลาสติกที่รั่ว หรือเศษไม้ ก็สามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ตามที่ต้องการได้ โดยใช้กรรมวิธีการทำซูเปอร์ซีเมนต์ ซึ่งถือว่ามีความแข็งแรงทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนทุกสภาพอากาศ โดยที่สีไม่หลุดลอก รวมถึงน้ำหนักเบา ง่ายต่อการขนย้าย เหมาะกับการนำไปเป็นของตกแต่งบ้าน และแก้ฮวงจุ้ยได้เป็นอย่างดี”
ส่วนกลุ่มลูกค้า ถือว่าผลิตภัณฑ์จากซูเปอร์ซีเมนต์ สามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งลูกค้าที่รับเหมาก่อสร้าง นักออกแบบตกแต่งภายใน หน่วยงานราชการและเอกชน รวมถึงลูกค้าทั่วไปที่ต้องการจัดแต่งสวน หรือชื่นชอบการตกแต่งบ้าน เพราะสามารถออกแบบได้ตามจินตนาการของลูกค้าได้ รวมถึงราคายังถูกกว่างานปูน หรืองานไฟเบอร์หลายเท่าตัว โดยล่าสุดทางบริษัทฯ ได้หันมาออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สำเร็จรูปมากขึ้น เช่น รั้ว แผ่นพื้น ผนังอาคารก้อนหิน เพื่อขยายตลาดไปตามต่างจังหวัด และสามารถเจาะตลาดตามห้างที่จำหน่ายสินค้าเพื่อการตกแต่งบ้านโดยเฉพาะได้
ทั้งนี้ หลังจากที่นายวิชัย ได้นำร่องธุรกิจซูเปอร์ซีเมนต์มานานกว่า 3 ปี ทำให้มีผลงานมากมาย และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งภาครัฐฯ และเอกชน ทำให้หลายคนมองเห็นลู่ทางในการต่อยอดธุรกิจนี้ ในรูปแบบอื่นๆ และสนใจเข้ามาเรียนรู้เทคโนโลยีนี้ ทำให้คิดเปิดสอนการทำซูเปอร์ซีเมนต์ในราคาคอร์สละ 30,000 บาท (รวมค่าวัสดุในการเรียน) โดยผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านนี้มาก่อนก็สามารถมาเรียนได้ ซึ่งนายวิชัยหวังที่จะให้บุคคลเหล่านี้เข้ามาช่วยแบ่งเบางานบางส่วนออกไป หวังขยายตลาดในต่างประเทศ
*** โทร 08-1613-8027 , 02-806-3944 หรือที่ www.greenzoneshop.com***
