ศูนย์ข่าวศรีราชา – ปัญหาโรคเอดส์แพร่สะพัดในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นอันดับ 2 ของประเทศ หลังมีประชาชนหลากหลายสาขาอาชีพ แห่เข้ามาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม-ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอสด์ และผู้ติดเชื้อ H.I.V.โรงพยาบาลอ่าวอุดม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทันตแพทย์หญิง ทิพวรรณ เตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางมารับฟังปัญหาและแนวทางในการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ H.I.V.ที่มีทั้งสิ้นกว่า 400 คน โดยขณะนี้ทางศูนย์ดังกล่าวพยายามให้ความช่วยเหลือในทุกๆ ด้านกับผู้ประสบปัญหาดังกล่าว
ที่ผ่านมา ศูนย์ดังกล่าวได้ดำเนินการมานานหลายปีแล้ว แต่ผู้ป่วยไม่ได้รับการช่วยเหลือและดูแลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบเท่าที่ควร ทำให้ผู้ป่วยขาดสถานที่ดูแลและรักษาเท่าที่ควร ซึ่งอาจทำให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะนี้ทางศูนย์เริ่มให้ความสนใจและดูแลผู้ป่วยอย่างจริงจังและเต็มที่ เพื่อให้ปัญหาลดน้อยลงหรือไม่ให้แพร่กระจายเพิ่มมากขึ้น จึงจัดโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยเหล่านี้
ทันตแพทย์หญิง ทิพวรรณ กล่าวว่า สำหรับโครงการช่วยเหลือต่างๆ นั้น เพื่อต้องการให้ผู้ป่วยเหล่านี้มีรายได้ เพราะที่ผ่านมาเมื่อทราบว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าว ทางบริษัทหรือห้างร้านก็จะไม่รับเข้าทำงาน ก็จะเป็นภาระต่อครอบครัวและสังคม เนื่องจากไม่มีงานทำและรายได้ แต่หากเข้ามาที่ศูนย์ ทางศูนย์จะหาทางช่วยเหลือ ทั้งทางด้านยารักษา, การปฐมพยาบาล, ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาตรวจรักษา, ด้านการศึกษาให้กับบุตรหลาน ที่สำคัญหาอาชีพเพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัวด้วย
ปัจจุบันมีผู้เข้ามาลงทะเบียน แจ้งชื่อว่า ติดเชื้อ H.I.V.ประมาณ 400 กว่าคน ซึ่งทางศูนย์จะปกติข้อมูลเป็นความลับไม่ให้ใครรู้ใครทราบ ซึ่งก็มีหลากหลายอาชีพในขณะนี้ และก็ยังมีอีกบางส่วนไม่ได้มาแจ้งชื่อไว้ โดยกรณีดังกล่าวจะสร้างปัญหาและผลกระทบอย่างแน่นอน และที่สำคัญ ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือ หรือขอรับความช่วยเหลือได้ ดังกล่าวหากใครทราบว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าวก็ควรเข้ามารักษาและดูแลอย่างใกล้ชิด
ด้าน นายฐานิศร์ น้อยเพ็ง นายอำเภอศรีราชา กล่าวถึงสถานการณ์โรคเอดส์ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นพื้นที่ที่น่ากลัวมาก เนื่องจากปัจจุบันจังหวัดชลบุรี เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ที่มีผู้ติดเชื่อ H.I.V.ดังนั้น ควรจะต้องเร่งให้ความรู้และให้ความช่วยเหลือบุคคลดังกล่าว เพื่อไม่ให้แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้
ขณะนี้หลายๆ หน่วยงานได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นแหล่งทางด้านอุตสาหกรรม,ด้านการท่องเที่ยว โดยหากไม่ให้ความรู้และร่วมรณรงค์แก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้ปัญหาลดน้อยลงหรือหมดไป