ศูนย์ข่าวนคนรราชสีมา - ฝรั่งลูกเขยสุรินทร์ชาวฮอลแลนด์ ทึ่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ลงมือทำเองประสบผลสำเร็จสูง พร้อมทั้งชักชวนเพื่อนต่างชาติร่วมปลูกพืชผัก เลี้ยงปลา สุกร และปลูกว่านห่างจระเข้บนพื้นที่ว่างเปล่ารอบบริเวณบ้าน แปรรูปเป็นผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรกว่า 10 ประเภท ส่งขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ด้วยการลงทุนน้อยแบบพอเพียง
วันนี้ (12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุรินทร์ว่า ที่บ้านหนองพลวง ต.หนองหลวง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ได้มีกลุ่มชาวต่างชาติ 5 คนเป็นชาวฮอลแลนด์ นำโดยนายจอน โบเจอร์ ซึ่งแต่งงานอยู่กินกับนางสุทัศน์ นามสว่าง ชาวบ้านหนองพลวง ได้พากันทำการเกษตรตามปรัชญาแบบเศรษฐกิจพอเพียงบนที่ดินรอบบริเวณบ้านพัก โดยการถมที่ดินสูงขึ้นจากทุ่งนาทั่วไปแล้วจัดสรรแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน ประกอบด้วยส่วนที่เป็นบ่อน้ำ ใช้เลี้ยงปลา, เลี้ยงหมู, เลี้ยงกบ และส่วนที่ใช้ปลูกพืชผัก เช่น พริก มะเขือเทศ ใบยาสูบ และว่านหางจระเข้
โดยเฉพาะว่านหางจระเข้ กลุ่มของนายจอนสามารถนำผลผลิตไปสกัดแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรได้มากกว่า 10 ประเภท เช่น ครีมอาบน้ำ, ยาสีฟัน, ลิปสติก, ยาสระผม, สบู่อาบน้ำ, ครีมกันแดด, ครีมสำหรับกลางวัน, ครีมสำหรับกลางคืน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกหลายชนิด
นายจอน โบเจอร์ ชาวฮอลแลนด์ เปิดเผยว่า การที่ตนเริ่มทำการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการจัดแบ่งที่ดินและปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ต่างๆ รอบบริเวณบ้านพักเนื่องจากพื้นที่รอบบ้านเป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ประกอบกับญาติในครอบครัวของภรรยาทั้งแม่ยาย และพี่สาวภรรยา เริ่มพากันปลูกพืชผัก พริก, มะเขือเทศ, เลี้ยงปลา, เลี้ยงกบ และเลี้ยงหมูในบริเวณดังกล่าว ตนจึงเข้าช่วยกันทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและได้ผลผลิตดีมาก ครอบครัวเราไม่ต้องซื้อผักหรืออาหารประเภทปลา หมู ต่างๆ เลยก็อยู่ได้ เพราะมีอาหารอยู่รอบบ้านพักสามารถเก็บมาประกอบอาหารได้ทุกวันและทำมาอย่างนี้มา 4 ปีแล้ว
นอกจากนี้ ในช่วงที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดได้พบเห็นการปลูกว่านหางจระเข้ ซึ่งสามารถแปรรูปเป็นเครื่องสำอางได้ จึงซื้อพันธุ์ว่านหางจระเข้มาปลูกบริเวณใกล้บ้านพักบนเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา ซึ่งปลูกจำนวนไม่มากและไม่ต้องลงทุนสูง แล้วนำว่านหางจระเข้มาสกัดสารแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรได้มากกว่า 10 ประเภทแล้ว เพื่อใช้เองภายในครอบครัว พร้อมส่งออกขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“ปัจจุบันพยามขยายตลาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้เพื่อนชาวฮอลแลนด์มาช่วยกันปลูกพืชผักและว่านหางจระเข้ ซึ่งได้ร่วมกันทำทุกขั้นตอนตั้งแต่การปลูก การดูแล รดน้ำ ให้ปุ๋ย และช่วยกันออกแบบผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นด้วย ทุกคนทำงานกันสนุกมาก สภาพอากาศที่เมืองไทยดีทุกคนชอบมาก ทำมาหากินก็ไม่ลำบาก ขอให้ขยันก็มีกินแล้ว ซึ่งชาวบ้านใกล้เคียงก็เริ่มมาเอาแบบอย่างพวกเราบ้างแล้ว” นายจอน กล่าว
