กาฬสินธุ์- ชาวบ้านนับร้อยบุกสำนักงาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนลำปาว โวย ผอ.ไร้มนุษยธรรม จี้หยุดปล่อยน้ำสปิงเวย์ 2 ชั่วโมง เพื่องมศพพ่อขึ้นมาบำเพ็ญกุศล หลังจากพลัดตกขณะเดินชมวิวนาน 4 วัน ด้านลูกชายปีนตึก 2 ชั้น ขู่โดดตึกหากไม่ยอมหยุดปล่อยน้ำ ด้าน ผอ.อ้างเกรงระบบนิเวศและแนวตลิ่งพัง
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (11 ก.พ.) ชาวบ้านหนองเผือก ม.4 ต.ลำหนองแสน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ กว่า 200 คน เดินทางมาชุมนุมภายในสำนักงานโครงการบำรุงรักษาเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขอร้องให้ นายพรเทพ เหม็งประมูล ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนลำปาว หยุดปล่อยน้ำบริเวณสปิงเวย์ 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เพื่อที่จะงมหาศพ นายประสาท หีบแก้ว อายุ 60 ปี หลังจากพลัดตกลงไปในน้ำบริเวณดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิต แต่ญาติและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถงมศพขึ้นมาได้ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยว และทางโครงการไม่หยุดปล่อยน้ำ
นายสุดใจ ภูทอถ้ำ อายุ 36 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านต้องเดินทางมาชุมนุมครั้งนี้ ก็เพราะไม่สามารถลงไปงมศพ นายประสาท ที่พลัดตกน้ำที่บริเวณสปิงเวย์เมื่อ 4 วันที่ผ่านมาได้ เนื่องจากกระแสน้ำมีความเชี่ยว และลึก ประกอบกับทางโครงการไม่ยอมหยุดปล่อยน้ำ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตัวแทนญาติของนายประสาทได้เดินทางเข้าขอร้องหลายครั้งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการพยายามบ่ายเบี่ยง และไม่ยอมหยุดปล่อยน้ำ โดยที่ไม่ยอมบอกถึงเหตุผล จนกระทั่งบรรดาญาติที่มารอนำศพนายประสาททนไม่ไหว เพราะต้องการนำศพกลับบ้าน เพื่อไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา จึงได้ตัดสินใจมาชุมนุมกัน
“การสูญเสียญาติผู้ใหญ่ไปเราก็เสียใจมากพอแล้ว แต่การกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการระทำที่ไร้มนุษยธรรม ไม่เห็นอกเห็นใจชาวบ้าน เพราะต้องมานั่งรอหาศพนาน 4 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่พบ ซึ่งหากเป็นญาติใคร ใครก็ต้องการนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศล” นายสุดใจ กล่าวพร้อมน้ำตาคลอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ชาวบ้านชุมนุมกัน นายพรเทพ เหม็งประมูล ผอ.โครงการฯ และเจ้าหน้าที่ ได้ออกมาเจรจากับชาวบ้าน ซึ่งยืนยันว่า ไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านได้ เนื่องจากเกรงว่าแนวตลิ่งจะพัง หากไม่มีน้ำหนุนไว้ ชาวบ้านจึตะโกนร้องด่าว่าไร้มนุษยธรรม ทั้งนี้ ขณะที่กำลังเจราอยู่นั้น นายมานิต หีบแก้ว อายุ 28 ปี ลูกชายนายประสาท ได้ปีนขึ้นไปบนตึก 2 ชั้น พร้อมขู่จะโดดตึกลงมา หากนายพรเทพไม่หยุดปล่อยน้ำ
แต่โชคดีชาวบ้านได้ตามขึ้นไปคุมตัวและเกลี้ยกล่อมลงมาได้ จากนั้น นายพรเทพ จึงรับปากกับชาวบ้านว่าจะลดปริมาณการปล่อยน้ำจนกระทั่งงมศพขึ้นมาได้ ชาวบ้านจึงพอใจและเดินทางกลับไปช่วยกันหาศพนายประสาท
นายพรเทพ กล่าวว่า เรื่องการหยุดปล่อยน้ำบริเวณสปิงเวย์ของโครงการ ที่ผ่านมาชาวบ้านได้เข้ามาขอร้องให้หยุดปล่อยแล้ว ซึ่งทางเขื่อนก็ลดปริมาณการปล่อยน้ำลงไป 20 เซนติเมตร แต่ไม่สามารถหยุดปล่อยทั้งหมดได้ เนื่องจากเกรงว่าระบบนิเวศจะสูญเสีย และแนวตลิ่งตามคลองส่งน้ำจะพัง เพราะไม่มีน้ำอุ้มไว้ และที่สำคัญ ชาวนาทั้งใน จ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยังต้องการน้ำเพื่อทำการเกษตรและเลี้ยงกุ้งอยู่
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก จึงได้สั่งให้ลดปริมาณการปล่อยน้ำลงไปเรื่อยๆจนกว่าชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จะสามารถหาศพจนเจอ
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา สารวัตรหัวหน้า สภ.ลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ หน่วยกู้ชีพ และ อปพร.ตำบลลำปาว กว่า 50 นาย นำเรือท้องแบน 1 ลำ ออกค้นหาศพนายประสาท หีบแก้ว อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ม.4 บ้านหนองเผือก ต.ลำหนองแสน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ นักท่องเที่ยวที่พลัดตกลงไปในน้ำที่บริเวณจุดผันน้ำใต้เขื่อนลำปาว และคาดว่า น่าจะเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากน้ำมีความลึกและไหลเชี่ยว อีกทั้งบริเวณจุดเกิดเหตุยังมีโพรงหินและโขดหินสลับซับซ้อน จึงเป็นอุปสรรคในการค้นหา แม้ทางโครงการจัดสรรน้ำเขื่อนลำปาว จะลดปริมาณการปล่อยน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกให้การค้นหาศพแล้วก็ตาม แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำศพของผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้
จากการสอบถาม นางบัวเรียน บุญเรียง อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 8 หมู่ 4 บ้านหาดทรายมูล ต.พิมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นญาติของ นายประสาท หีบแก้ว ทราบว่า นายประสาทเป็นเจ้าของสวนยางพาราหลายสิบไร่ มีฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐีระดับอำเภอคนหนึ่ง โดยก่อนเกิดเหตุนายประสาทพร้อมญาติรวม 10 คน ได้พากันมาเที่ยวที่เขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเขื่อนลำปาว ขณะเกิดเหตุญาติๆ กำลังนั่งรับประทานอาหารเที่ยงอยู่ร้านอาหาร
จากนั้น นายประสาท ได้เดินเลียบไปตามริมฝั่งเพื่อชมทิวทัศน์ จึงลื่นตกลงไปในน้ำ ซึ่งมีความเย็น ทำให้นายประสาทเป็นตะคริวจมน้ำลงไป ประกอบกับจุดที่พลัดตกเป็นแอ่งลึก และน้ำมีกระแสเชี่ยว ทำให้ญาติและนักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์ ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทัน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตน จึงได้แต่ยืนมองร่างของนายประสาท ถูกกระแสน้ำพัดจมหายไปต่อหน้าต่อตา